การพิจารณาทุกขเวทนาใหญ่ในครั้งนั้น ทำให้ท่านทราบชัดเจนว่า จิตคนเราแม้ไม่เคยพิจารณา.. ปัญญายังไม่เคยออกแบบนั้น แต่เวลามันจนตรอกจนมุมจริง ๆ แล้ว.. ปัญญามันไหวตัวทันเหตุการณ์ทุกแง่ทุกมุม จนกระทั่งรู้เท่าทุกขเวทนา รู้เท่ากาย รู้เรื่องจิต ต่างอันต่างจริง มันพรากกันลงอย่างหายเงียบเลย ทั้ง ๆ ที่ท่านไม่เคยเป็นอย่างนั้นมาก่อน ปรากฏว่า.. กายหายในความรู้สึก ทุกขเวทนาดับหมด เหลือแต่ความรู้สึกที่สักแต่ว่ารู้ ไม่ใช่รู้เด่น ๆ ชนิดคาด ๆ หมาย ๆ ได้ คือสักแต่ว่ารู้เท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนที่สุดอัศจรรย์ที่สุดในขณะนั้น
ท่านเล่าว่า “พอถอนขึ้นมาก็พิจารณาอีก แต่การพิจารณา เราจะเอาอุบายต่าง ๆ ที่เคยพิจารณาแล้วมาใช้ขณะนั้น ..ไม่ได้ผล มันเป็นสัญญาอดีตไปเลย ต้องผลิตขึ้นมาใหม่ให้ทันกับเหตุการณ์ในขณะนั้น.. จิตก็ลงได้อีก คืนนั้นลงได้ถึง ๓ ครั้งก็สว่าง โอ๋ย...อัศจรรย์เจ้าของละซิ ..!!!”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-10-2012 เมื่อ 12:37
|