พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอาตมาลงไปภูเก็ต ญาติโยมที่นั่นไม่ได้เจอหน้าอาตมาปีกว่าแล้ว เขาจึงไม่ยอมให้พัก แต่ละคนขออยู่นาน ๆ อาตมาก็นั่งตั้งแต่ประมาณ ๖ โมงเช้าจนถึง ๒ ทุ่ม ต้องหลับตาพูดแล้ว..ไม่ไหวแล้ว..แรงจะนั่งก็ยังไม่มี แต่น่าชื่นใจตรงที่ว่า ไม่ค่อยได้ลงไปก็จริง แต่เขาปฏิบัติได้ผลกันดีมาก
อย่างภรรยาของทิดรัตน์ ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยชอบที่สามีเข้าวัด อาจจะเป็นวาระบุญของเขาก็ได้ พอภรรยาทิดรัตน์ไปนั่งปฏิบัติ สภาพจิตเห็นธรรม เขาเห็นว่าชีวิตเราไม่มีแก่นสารขนาดนี้เลยหรือ ? วันหนึ่ง ๆ ตื่นขึ้นมาก็ทำนั่นทำนี่ ทำมาหากินเสร็จ หมดไปอีกวันหนึ่งแล้ว พอพิจารณาลึกไป ๆ ท้ายสุดก็เหลือตัวคนเดียว คนอื่นก็ไม่มีใครอยู่กับเราได้ตลอด จึงนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว เพราะปีติเกิด
ลักษณะแบบนี้ตีก็ไม่ไป ไล่ก็ไม่หนีแล้ว อีกหลายคนก็อยู่ในลักษณะที่ปฏิบัติแล้วมีความก้าวหน้ามาก อาตมาไม่ได้ลงไปเป็นปีก็จริง แต่โยมเขาเหมือนกับคนหิว ถึงเวลาจึงกินของเขาเต็มที่ ทำให้ได้ผลในส่วนของเขาไปเอง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2012 เมื่อ 02:09
|