ดูแบบคำตอบเดียว
  #58  
เก่า 24-10-2012, 21:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,232 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีโยมคนหนึ่งบอกว่า ปัจจุบันนี้รักษาศีล ๘ แต่ศีลขาดบ่อย อาตมาถามว่าขาดอย่างไร ? เขาบอกว่าเผลอไปเคี้ยวลูกอมเข้า

อาตมาก็เลยบอกว่า ในเรื่องของศีล ๘ ศีลตั้งแต่ข้อ ๖ - ๘ ขาดไปไม่ตกนรกหรอก แต่ในส่วนของธรรมะจะบกพร่อง การเข้าถึงธรรมจะช้าลงนิดหนึ่ง
ถ้ารักษาศีลละเอียดได้ ส่วนของธรรมะไม่บกพร่อง การเข้าถึงธรรมก็จะง่ายขึ้น

แต่ในส่วนที่คุณบอกว่าศีลบกพร่องเพราะไปเคี้ยวลูกอม อาตมาไม่เห็นว่าจะพร่องตรงไหน บาลีใช้คำว่า ขาทนียะ โภชนียะ แปลเป็นไทยตรง ๆ ว่า ของเคี้ยว ของฉัน ของเคี้ยวท่านตีความว่า เป็นพืชมีหัว พวกเผือก มัน เหง้าบัว เป็นต้น ส่วนของฉันคืออาหารทั่วไป เขาหมายถึงอาหารมื้อหลัก ไม่ใช่ลูกอมที่คุณอม ที่อย่างน้อย ๆ ช่วยให้ร่างกายหายกระวนกระวาย พอได้น้ำตาลไปหน่อยหนึ่งจะได้ไม่มากวนเรา ฉะนั้น..มีปัญญาก็เคี้ยวไปเถอะ เพียงแต่ว่าเคี้ยวมาก ๆ เดี๋ยวฟันผุ..!

ส่วนใหญ่แล้วมักจะเข้าใจผิด ในเมื่อคุณคิดว่าคุณเคี้ยวแล้วถึงผิด ถ้าคุณต้มโจ๊กแล้วเอาหลอดดูดก็สบายสิ..! เพราะฉะนั้น..แยกให้ออกว่าอย่างไหนเป็นอาหารหลัก อย่างไหนเป็นปานะ หรือเป็นของฉันนอกเวลา ไปว่าตามพยัญชนะของบาลีที่เขาแปลมาตรง ๆ เลยก็แย่ เขาบอกของเคี้ยวของฉัน ถ้าไม่เคี้ยวแล้วฉันได้ก็สบาย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2012 เมื่อ 10:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา