ดูแบบคำตอบเดียว
  #69  
เก่า 02-12-2012, 20:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,995
ได้รับอนุโมทนา 4,416,474 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ความจริงแล้วพระกริ่งทางสายมหายาน เขาจะจารึกอักษรธรรม แล้วก็หลอมเป็นเม็ดกริ่งใส่ไว้ในองค์พระ เวลาเขย่าทีหนึ่งก็เท่ากับว่าได้สวดมนต์บทนั้นไปด้วย ส่วนใหญ่คนจีนนิยมก็คือคำว่า โอม มณี ปัทเม หุม

คนที่ไม่มีเวลาก็ใช้วิธีแกว่งกงล้อมนต์บ้าง หมุนกงล้อมนต์บ้าง นับลูกประคำบ้าง พระกริ่งก็อยู่นัยเดียวกัน ก็คือ เวลาเขย่าทีหนึ่งก็เท่ากับว่าตนเองสวดมนต์ไปรอบหนึ่ง คราวนี้การเขย่าของที่มีเสียงดังอยู่ข้างใน คนไทยเขาว่าดัง "กริ่ง ๆ" เขาก็เลยเรียกว่า พระกริ่ง แต่คนที่คิดมากพยายามลากเข้าหาบาลี เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ก็เลยไปไกลเกินเหตุ

เขาไปเปรียบกับบาลีว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันตเจ้าก็ดี เมื่อบรรลุมรรคผลแล้ว ก็มานั่งพิจารณาว่า การที่เข้าถึงมรรคถึงผลนี้ได้ เกิดจากการหนุนส่งของกุศลกรรมอะไรหนอ บาลีเขาว่า กิง กุสโล คำว่ากิงก็คืออะไร อย่างเช่น กิงนะระ ก็คือคนอะไร ที่เรามาเรียก กินนร กินนรี นั่นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2012 เมื่อ 01:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา