พระอาจารย์กล่าวว่า "สมเด็จวัดระฆังอย่าไปดูเนื้อแตกลายงานะ เพราะปัจจุบันทำได้สบาย เนื้อแตกลายงาของสมเด็จวัดระฆังจะแตกเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น เพราะโดนแดดโดนลมด้านเดียว ด้านหลังไม่แตก ถ้าแตกทั้งองค์ก็เป็นอันว่าจบ เรานึกถึงตอนที่เราตากพระ ก่อนที่พระจะแห้งเราพลิกไม่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้น..สมเด็จวัดระฆังถ้าแตกลายงาจะแตกด้านเดียว
ประการที่สอง สมเด็จวัดระฆังจริง ๆ เนื้อจะค่อนข้างบาง ถ้าเจอองค์หนาชนิดขว้างหัวหมาร้องนี่ไม่ใช่แน่ ประการที่สาม โบราณเขาใช้ผิวไม้ไผ่ตัด ตอนที่ตัดก็มักจะตัดจากข้างหลังมาข้างหน้า เพราะว่าเป็นการตัดในขณะที่ยกออกจากพิมพ์ ฉะนั้น..รอยตัดจะอยู่ข้างหลังเลื่อนไปข้างหน้าเสมอ ถ้าตัดตรงเม็ดมวลสารจะสังเกตได้ชัดที่สุด เพราะจะโดนดันไปข้างหน้า ถ้าหากว่ามวลสารใหญ่ก็ดันเป็นร่องให้เห็น ๆ เลย
อันนี้เป็นวิธีการดูหลัก ๆ ที่เหลือก็ต้องศึกษาว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร พอผ่านการใช้งานมีสภาพอย่างไร ไม่ใช้งานมีสภาพอย่างไร แล้วก็พิมพ์ทรง ถ้าผิดเนื้อผิดพิมพ์เขาวางเลย เขาไม่ดูต่อ ถ้าเอาพระไปให้เซียนดูแล้วไม่พูดอะไร แต่ว่าองค์ไหนคว่ำลงก็แปลว่าองค์นั้นเก็บเถอะ..ไม่ผ่าน ถ้าองค์ไหนเขาวางหงายเดี๋ยวก็หยิบไปดูใหม่"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2012 เมื่อ 01:38
|