เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
ทุกคนขยับตัวนั่งในท่าที่สบาย ตั้งกายให้ตรง กำหนดจิตเอาไว้เฉพาะหน้า เอาความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา ให้ความรู้สึกทั้งหมดแนบแน่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับลมหายใจเข้าออก จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ ตามแต่ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๕ เป็นการปฏิบัติธรรมต้นเดือนธันวาคมวันแรก สำหรับวันนี้อยากจะกล่าวถึงเหตุการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมา ก็คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีพร้อมกับคณะ ส่วนที่อยากจะชี้ให้เห็นชัด ๆ ก็คือ การที่ฝ่ายค้านใช้ถ้อยคำจาบจ้วงรุนแรงต่อนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิง แต่นายกรัฐมนตรีกลับรักษาอารมณ์ได้มั่นคง เยือกเย็น ไม่หวั่นไหว ตอบกระทู้ตามเหตุตามผล สิ่งทั้งหลายเหล่านี้อยากให้พวกเราดูไว้เป็นตัวอย่างว่า เราที่เป็นนักปฏิบัติธรรม ถ้าพบกับเหตุการณ์อย่างนั้น เราจะทำได้อย่างท่านนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่ ?
พวกเราทราบดีอยู่แล้วว่า โลกธรรม ๘ ประการ ก็คือ ธรรมะที่มีอยู่คู่กับโลก เกิดมาเป็นมนุษย์อย่างไรเสียก็ต้องพบ ก็คือ การได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ ได้รับคำสรรเสริญ ถูกนินทา ได้รับความสุข ได้รับความทุกข์ โลกธรรมทั้ง ๘ นี้ เป็นเรื่องที่ปรากฏขึ้นปกติในโลกของเรา สำหรับบุคคลทั่วไปก็จะยินดียินร้าย อารมณ์ขึ้นลงไปตามสิ่งที่เข้ามากระทบของโลกธรรมเหล่านี้ อย่างเช่นได้ลาภก็ดีใจ เสื่อมลาภก็เสียใจ ได้ยศก็ดีใจ เสื่อมยศก็เสียใจ ได้รับคำสรรเสริญก็ชื่นใจ ได้รับคำนินทาก็ทุกข์ใจ ได้ประสบกับความสุข ได้ประสบกับความทุกข์
ถ้าเราหวั่นไหวคล้อยตามไปในทุกเรื่อง อารมณ์ใจของเราต้องขึ้น ๆ ลง ๆ การที่อารมณ์ใจขึ้นลงอยู่ตลอดเวลานั้น จะเปรียบไปแล้วก็เหมือนกับเราขึ้นบันไดหรือลงบันได หรือปีนขึ้นภูเขาหรือปีนลงภูเขา ก็จะเหนื่อยมาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2012 เมื่อ 02:30
|