เวลามีโอกาส ท่านก็เล่านิทานที่เป็นคติให้ฟังบ้าง เล่าเรื่องความเป็นมาของท่านในชาติปัจจุบัน แต่สมัยเป็นฆราวาสจนได้บวชเป็นเณรเป็นพระให้ฟังบ้าง บางเรื่องก็น่าขบขันน่าหัวเราะ บางเรื่องก็น่าสงสารท่าน และน่าอัศจรรย์เรื่องของท่าน ซึ่งมีมากมายหลายเรื่อง
การอยู่กับครูบาอาจารย์นาน ๆ ทำให้จริตนิสัยของผู้ไปศึกษามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางดีตามท่าน วันละเล็กวันละน้อยทั้งภายนอกภายใน จนกลมกลืนกับนิสัยท่านตามควรแก่ฐานะของตน ทั้งมีความปลอดภัยมาก มีทางเจริญมากกว่าทางเสื่อมเสีย.. ธรรมค่อยซึมซาบเข้าสู่ใจโดยลำดับ เพราะการเห็น การได้ยิน ได้ฟังอยู่เสมอ ความสำรวมระวัง อันเป็นทางส่งเสริมสติปัญญาให้มีกำลังก็มากกว่าปกติ เพราะความเกรงกลัวท่านเป็นสาเหตุไม่ให้นอนใจ ต้องระวังกายระวังใจอยู่รอบด้าน
สัลเลขธรรม ๑๐ ประการ เป็นหลักธรรมที่หลวงปู่มั่นถือเป็นเครื่องดำเนินขัดเกลาซักฟอกกิเลสตลอดมา ดังนี้
“...อัปปิจฉตา (ความมักน้อยในปัจจัย ๔) ใครจะไปมักน้อยยิ่งกว่าพ่อแม่ครูจารย์มั่นของเรา คิดดูตั้งแต่หนุ่มน้อยจนกระทั่งเฒ่าแก่ ท่านมีสมบัติอะไรติดเนื้อติดองค์ของท่าน... ไม่ปรากฏ ไปที่ไหนท่านไปอย่างง่ายดาย มีเฉพาะบริขาร ๘ เท่านั้น
สันตุฏฐิตา (ยินดีในปัจจัย ๔ ตามมีตามเกิด) ไม่มีคำว่า “พะรุงพะรัง” มีสมบัตินั้น มีสมบัตินี้ไม่ปรากฏ มีเท่าไรก็แจกจ่ายไปหมด ที่อยู่ก็เป็นกระต๊อบกระแต๊บอยู่อย่างนั้น ไม่หรูหราอย่างกุฏิที่ท่านพักอยู่บ้านหนองเผือนาในนี้ ก็ว่ากุฏิพอประมาณ
เรื่องที่ว่าอยู่ในที่วิเวกหรือ วิเวกตา (ชอบสงบวิเวก) มีแต่ความสงัดทั้งวันทั้งคืน ยืน เดิน นั่ง นอน ไม่มีอะไรมายุ่งมาเกี่ยว
วิริยารัมภา การแนะนำสั่งสอนเพื่อความพากความเพียรนี้ ท่านเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ไม่ได้พูดเรื่องอื่นนอกจากความเพียร องค์ท่านเองถึงเวลาท่านก็ลงเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนาตามกำหนดกฎเกณฑ์ ตามเวล่ำเวลา ไม่เคลื่อนคลาดเลย
อสังสัคคณิกา (ไม่คลุกคลี) นี้ก็ไม่เคยปรากฏว่าใครไปยุ่งท่านได้ แม้แต่ประชาชนญาติโยมไปหาชั่วกาลชั่วเวลานี้ ท่านยังไม่อยากจะต้อนรับด้วยซ้ำ กับพระกับเณรเหล่านี้เหมือนกัน ให้ไปหาภาวนา มีแต่ไล่ไปภาวนา อย่ามายุ่งกันในเวลาไม่ควรยุ่ง เพราะฉะนั้น เวลาพระเณรขึ้นไปหาท่านจึงไปเพียงไม่กี่องค์ในเวลาหนึ่ง ๆ ซึ่งควรจะขึ้นไปหาท่าน
ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติหลุดพ้นใครเป็นผู้ทรงไว้ ก็ท่านทั้งนั้นเป็นผู้ทรงไว้ นี่รวมแล้วก็เป็นสัลเลขธรรม ๑๐ ประการ เป็นแนวทางที่สมบูรณ์เต็มที่แล้ว ดังที่ท่านกล่าวว่า สมาธิ ปัญญา ก็เป็นแต่ละข้อ ๆ ของสัลเลขธรรม แล้วก็วิมุตติญาณทัสสนะก็เป็น ๑๐ สุดยอดแห่งธรรมแล้ว...”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-12-2012 เมื่อ 20:02
|