คราวนี้เครื่องติดและไปได้เร็วขึ้น เนื่องจากพ้นเขตน้ำตื้นแล้ว เวลาเที่ยงเศษแดดร้อนแทบหัวแตก มาถึงด่านแมตะบูย ทหารขอลงไปเข้าเวร ที่แท้เขาเป็นนายด่านที่นี่ เลยสบายไป..ไม่ต้องจ่ายค่าผ่านทาง ถามหาหัวเทียนเรือก็มีด้วย ดีไปหมด
แต่นายท้ายไม่ดีด้วย เห็นเครื่องยังติดดีจะไม่ยอมเสียเงิน อาตมาจึงคลายกำลังใจลง เสียงท่อไอเสียระเบิดปังใหญ่ แล้วเครื่องก็ดับเงียบฉี่..! คราวนี้ซ่อมเท่าไรก็ไม่ยอมติด สมน้ำหน้ามัน...ต้องยอมเสียเงินซื้อหัวเทียนใหม่จนได้..! แต่คนขายก็ไม่รู้ราคา คนซื้อก็ไม่แน่ใจ เลยเอาไปใช้ก่อน แล้วค่อยกลับมาจ่ายให้ทีหลัง
จัดการเปลี่ยนหัวเทียนจนเรียบร้อย ทีนี้ไปฉลุยเลย น้ำลึกขึ้น ทำความเร็วได้สม่ำเสมอ บ่ายโมงกว่ามาถึงบ้านปงคอ ทั้งต้นเรือทั้งนายท้ายขอกินข้าวก่อน เติมพลังเสร็จสรรพพอดีพระเจ้าทำธุระส่วนตัวเสร็จเช่นกัน คราวนี้ไปยาวเลยลูกพี่..!
ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า ที่เรือฝ่าผิวน้ำและแดดจ้าไปตลอด จากตะวันตรงหัวก็เริ่มบ่ายคล้อย ที่นั่งคับแคบจำกัด ทำให้ปวดระบมไปหมด โดยเฉพาะตรงก้น ต้องขยับเปลี่ยนท่านั่งอยู่เรื่อย จนมาถูกหน่วยทหารลาดตระเวนเรียกเก็บค่านักเลงอีกรอบ
ฟ้ามัวลงตามลำดับ ถึงบ้านมิยันตองตอนห้าโมงครึ่ง เกือบจะมืดสนิทแล้ว คณะของเราขึ้นพักค้างคืนที่หมู่แพ เมื่อจัดการสรงน้ำเสร็จ มีโยมเอาน้ำตาลปึกกับน้ำชาถวาย ญาติโยมที่ตามมากินอาหารค่ำ แล้วพักผ่อนตามอัธยาศัยด้วยอ่อนใจกันเต็มที
คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คิมหันต์ : 07-01-2013 เมื่อ 22:59
|