กินฝุ่นฝ่าเปลวแดดไปอีกเกือบสองชั่วโมง ก็มาถึงบ้านบุคคโล ร่มรื่นน่าอยู่มาก พักดื่มน้ำกันครู่ใหญ่แล้วไปต่อ กว่าจะพ้นทุ่งนาของบ้านบุคคโลก็เกือบชั่วโมง
มาถึงบ้านนองพะเบ๊าะแดดอ่อนลงมากแล้ว ท่านญาณะกับท่านจันทะทนเจ็บหลังเจ็บก้นไม่ไหว ขอลงไปเดินยืดเส้นยืดสายแทนการนั่งกระแทกโครม ๆ ไปบนเกวียน
ลัดทุ่งผ่านท้ายบ้านป่าหวายตอนอาทิตย์จวนลับฟ้า พอตกดินสนิทอากาศเริ่มเย็น ลมชักจะโชยมาบ้าง ผ่านบ้านกะหร่างซึ่งอยู่ติดกับบ้านหนองบัว พวกนี้เป็นคริสต์กันทั้งหมู่บ้าน ท้ายบ้านเป็นป่าเต็งรังหนาแน่น มีทางเฉพาะให้เกวียนแล่นไปได้เท่านั้น ถ้าพวกกะเหรี่ยงคริสต์เหล่านี้คิดจะปล้น มันยืนขวางทางแค่คนเดียวก็พอแล้ว..!
ถึงบ้านหนองบัวตอนเข้าไต้เข้าไฟพอดี ชาวบ้านบางคนที่ยืนมองแทบติดเกวียนจำท่านนาวินกับอาตมาได้ ร้องบอกต่อ ๆ กันแบบดีอกดีใจ ว่า “ครูบาน้อยมาแล้ว ครูบาไทยก็มาด้วย..” ทั้งหมู่บ้านกลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาแบบฉับพลันทันใด..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2013 เมื่อ 02:12
|