พระอาจารย์เล่าว่า "มีโยมจะมาช่วยตั้งกองทุนอาหารหมา อาตมาไล่เตลิดไปแล้ว บอกว่าไม่ต้องเลย หมาวัดท่าขนุนไม่ได้อด เลือกกินอีกต่างหาก อาหารเหลือเฟือ แต่ถ้าไม่อร่อยหมาไม่กินเลย นึกถึงสมัยเด็ก ๆ อาตมาเลี้ยงหมา อย่างเก่งก็ได้กินน้ำข้าวเท่านั้น ที่เหลือไปหากินเอาเอง ไล่จับตุ่น จับแย้ จับกิ้งก่ากินเอง ก็เห็นแข็งแรงดีออก
แต่สัญชาตญาณเขาสุดยอดเลย บางทีตั้งใจแกล้งเขา ตอนตรุษจีนกินไก่แล้วเหลือกระดูกขาไก่ ยกให้หมาดูแล้วขว้างเข้าไปในดงหญ้าคา หมาวิ่งพรวดเข้าไปไม่ถึง ๑ นาทีเอาออกมากินแล้ว สมัยนี้โยนเลยหัวไปคืบเดียวยังหาไม่เจอ สมรรถภาพของหมาเสื่อมลงขนาดนั้น ต้องปล่อยลักษณะอย่างที่อาตมาเลี้ยง แบบนั้นอยู่ในสถานการณ์ไหนก็เอาตัวรอดได้
หนังสือ Survival ที่เขาแปลเป็นไทยว่าต้องรอด เนื้อเรื่องกล่าวถึงว่าแผ่นดินไหวแล้วถล่มลงทะเลไป ตัวเองไปติดอยู่บนเกาะ กว่าจะข้ามมาทางด้านแผ่นดินใหญ่ได้ก็หลายเดือน ปรากฏว่ามาเจอหมาจับกลุ่มกันล่าสัตว์ หมากลับคืนสัญชาตญาณป่าแล้ว มาเจอคนก็จะกินคน พอตัวเองเดินอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของกรุงโตเกียว อยู่ ๆ เสือก็โผล่ออกมา เสือหลุดจากสวนสัตว์มา เจออะไรก็จับกินไปเรื่อย คราวนี้ไม่มีคนให้กินก็กินสัตว์ อยู่ ๆ มาเจอคนเข้าก็จะกินคนแล้ว
สัญชาตญาณของสัตว์จะมีความเป็นสัตว์ป่าอยู่เยอะ พอถึงเวลาตามความเคยชินก็จะออกล่า เราจะสังเกตว่า ที่หมากัดคน ถ้ายิ่งร้องเอะอะเอ็ดตะโรหมาจะยิ่งกัด เพราะว่าเป็นสัญชาตญาณในการล่าของเขา สัตว์ที่โดนล่าก็จะต้องร้องอย่างนี้"
ถาม : เป็นกรรมหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เป็น...แต่น้อย เพราะว่าเขาอยู่ในภพภูมิที่มืดบอดกว่า เมื่ออยู่ในภพภูมิที่มืดบอดกว่า สิ่งที่เขาทำกรรมก็น้อยกว่า ถ้าอย่างเราทำบาปจะหนักกว่ามาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-01-2013 เมื่อ 02:57
|