ดูแบบคำตอบเดียว
  #57  
เก่า 20-01-2013, 21:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,348 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ต่อไปตัวเองกำลังกิน ๆ อยู่ ก็คงมีคนแย่งจานข้าวไปซึ่ง ๆ หน้า หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ท่านไปธุดงค์แล้ววาระกรรมเข้ามา กว่าท่านจะเดินทะลุป่าไปถึงหมู่บ้านก็เลยเที่ยงไปแล้ว ท่านก็เลยอดข้าว วันที่ ๑ ผ่านไปก็ไม่เป็นไร เดินทางต่อ ไปค้างคืนกลางป่า วันที่ ๒ เดินไปไม่ไกล เจอหมู่บ้านก็คิดว่าตัวเองฉันมื้อเดียว เดี๋ยวไปอีกหมู่บ้านหนึ่งแล้วค่อยบิณฑบาต ปรากฏว่าเดินยันค่ำก็ยังไม่เจอหมู่บ้าน

วันที่ ๓ เดินไปหน่อยเจอหมู่บ้าน คราวนี้บิณฑบาตตั้งแต่เช้าเลย ปรากฏว่าบิณฑบาตเสร็จ ปูผ้าลง เพิ่งเปิบข้าวเข้าปากคำเดียว มีช้างตกมันหลุดวิ่งมา ท่านก็ต้องลุกเผ่นออกจากทาง เพื่อให้ช้างวิ่งผ่านไป คราวนี้พระธุดงค์ท่านถือการฉันอาสนะเดียว ในเมื่อฉันไปคำหนึ่งแล้วลุกขึ้นก็แปลว่าอด ๓ วันได้ฉัน ๑ คำ วันที่ ๔ กว่าไปถึงบ้านโยมก็เพลกว่า ๆ โยมเห็นพระอดมาก็สงสาร ลุกขึ้นหุงข้าวต้มแกงเป็นการใหญ่ ปรากฏว่าหลวงปู่เป็นลม..! ฟื้นขึ้นมาเลยเที่ยงก็เลยอดต่อไป โอ้โห...กรรมอะไรจะดุเดือดปานนั้น สรุปว่ากว่าจะได้ฉัน โน่น..วันที่ ๖ เวลาวาระกรรมเข้าได้นี่เขาใส่ไม่เลี้ยงเลย

หลวงปู่ครูบาธรรมชัยไปภาวนาในป่าช้า ช้างตกมันหลุดปลอกมาเหมือนกัน ไปวน ๆ อยู่แถว ๆ หลวงปู่ ชาวบ้านก็ไม่กล้าเอาอาหารเข้าไปถวาย ช้างวนอยู่แถวนั้น ๗ วัน ใครมาโดนไล่กระจายหมด พอวันที่ ๘ ช้างก็ไป ชาวบ้านถึงเอาอาหารมาถวายหลวงปู่ได้ ท่านอดมา ๗ วันเต็ม ๆ

ชาวบ้านถามว่า "หลวงปู่ทำกรรมอะไรไว้ครับ ?" ท่านบอกชาติก่อนเคยไปตกปลอกมันเอาไว้ คือช้างตัวนั้นในอดีตก็เป็นช้าง หลวงปู่เห็นว่าตกมันก็เอาโซ่ล่ามไว้ ให้อดอาหารอยู่ ๗ วันจนกระทั่งหายตกมัน ปรากฏว่ามาชาตินั้นท่านบวชพระแล้ว ไอ้นั่นยังเป็นช้างอยู่ ถึงเวลาก็มาเอาคืน ๗ วันเหมือนกัน

เรื่องของวาระกรรม ถ้าไม่เนื่องกันมาก็ไม่เจออย่างนี้ ท้ายสุดก็ต้องเจอจนได้ หลวงปู่ครูบาพรหมจักรนั้นท่านสาหัสจริง ๆ กว่าจะได้ฉันที ๕ - ๖ วัน แล้วมีการมาล่อให้อยากด้วยนะ ให้ฉันได้ไปคำหนึ่ง คนอดข้าวมา ๓ วันได้ไปคำหนึ่งแล้วอดต่ออีก ๒ วันนี่สาหัสเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-01-2013 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา