"ต้องกองลงไปให้หมด ทิ้งลงไปให้หมดเลย ไม่ว่าจะตัวตน ครอบครัว ทรัพย์สมบัติ ลูกเขาเมียใคร ไม่ได้เกี่ยวกับเราเลยสักอย่างเดียว พ่อแม่ญาติพี่น้องก็ไม่มี แล้วจะวางอะไร ก็วางลงตรงนี้แหละ
ตอนนี้เราอยู่กับการปฏิบัติธรรม ไปรอวางเวลาอื่นไม่ได้หรอก จะวางเมื่อวานก็วางไม่ได้เพราะเลยมาแล้ว จะวางพรุ่งนี้ก็วางไม่ได้เพราะยังมาไม่ถึง ต้องวางตอนนี้ วางเดี๋ยวนี้ ถ้าเราวางลงตอนนี้ก็เป็นอันว่าไม่ได้แบกอะไร..สบาย..ถอนใจจากลม ไม่ต้องติดลมแล้ว มองเห็นโทษแล้วว่าติดลมมีความทุกข์อย่างไร พอถอนใจออกมา คราวนี้ก็เบาสบาย แหม...อยากจะบินได้เหาะได้เดี๋ยวนั้นเลย
เข้าไม่ถึงก็ฟังไว้เป็นแนว แล้วค่อย ๆ ปฏิบัติไป วางมากไม่ได้ก็ค่อย ๆ วางทีละน้อย แต่ขอให้วางไปเรื่อย ๆ ปลดใจของเราออกไปเรื่อย ๆ อันดับแรกก็ปลดจากความชั่ว คือ รัก โลภ โกรธ หลง ก่อน
จากนั้นก็ปลดจากความดี ค่อย ๆ ปลดไปทีละนิดทีละหน่อย ความเบามีมากขึ้นเรื่อย ๆ สภาพจิตเกิดปีติ เกิดผ่องใสมากขึ้นเรื่อย ๆ ท้ายสุดพอแกะหมดก็ไปแล้ว ตัวใครตัวมันนะจ๊ะ
คำว่าตัวใครตัวมันในที่นี้คือ กายส่วนกาย ใจส่วนใจแล้ว ใจมีหน้าที่ดูอย่างเดียวแล้ว ดูเหมือนดูหนังดูละครเลย เป็นการดูหนังดูละครแบบคนมีปัญญาด้วย ดูแล้วไม่ได้ปรุงไม่ได้แต่งตาม ข้าก็ดูมีหน้าที่ดู ไม่ได้มีหน้าที่ไปยินดียินร้ายด้วยแล้ว
เมื่อไม่ได้ยินดียินร้าย รู้ว่าอะไรดีก็ทำ รู้ว่าอะไรชั่วก็ละ ลมหายใจหมดลงเมื่อไหร่ก็เป็นอันว่าจบกันแค่นี้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-02-2013 เมื่อ 01:55
|