ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 30-03-2013, 19:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,646 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วิธีที่ ๒ ให้พิจารณาโดยฐานะ ดูบุคคลที่มีฐานะร่ำรวย อย่างในอดีตเช่นเมณฑกเศรษฐี มีแพะทองคำล้อมรอบบ้านอยู่ แต่ละตัวโตเหมือนช้าง ภายในท้องแพะทองคำมีทรัพย์สมบัติสิ่งของทุกอย่าง ต้องการอะไรก็แค่ดึงสลักที่อุดปากแพะออก สิ่งของที่ต้องการก็จะไหลออกมาให้ ร่ำรวยจนนับไม่ได้ว่าตนเองมีเงินเท่าไร หรือชฏิลเศรษฐี มีภูเขาทองเกิดขึ้นในบ้าน หรือปุณณเศรษฐี สมัยที่ยังเป็นทาสเขาอยู่ ไถนาเท่าไร ขี้ไถก็กลายเป็นทองคำหมด เมื่อได้รับพระราชทานที่ให้ไปสร้างบ้านเรือน ขุมทรัพย์ก็เกิดขึ้นในที่ตั้งบ้านอีก หรือโชติกเศรษฐี ที่ร่ำรวยมหาศาลขนาดมีปราสาทแก้วมณี เป็นต้น

ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็ไม่อาจจะใช้ความร่ำรวยซื้อชีวิตตนเองให้ยืนยาวได้ ท้ายสุดก็ตายหมด ถ้าเรามาดูในยุคปัจจุบัน บุคคลที่มีฐานะร่ำรวยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบิล เกตส์ ไม่ว่าจะเป็นวอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ว่าจะเป็นสตีฟ จอบส์ เป็นต้น ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็ไม่สามารถที่จะล่วงพ้นจากความตายเช่นกัน เรียกว่าโดยฐานะจะร่ำรวยขนาดไหนก็ต้องตายทั้งสิ้น

วิธีที่ ๓ ท่านบอกว่าให้พิจารณาโดยยศ บุคคลที่ยิ่งใหญ่ในอดีต อย่างเช่นพระเจ้าจักรพรรดิก็ดี พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ก็ดี มีใครจะสามารถใช้ความยิ่งใหญ่ในยศศักดิ์ รั้งชีวิตจากความตายได้หรือไม่ ? ก็ไม่มี..แม้กระทั่งในปัจจุบันของเรา บรรดาผู้นำประเทศต่าง ๆ ก็ล่วงลับดับขันธ์ไปให้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ

เราจะเห็นว่าแม้จะยิ่งใหญ่ระดับประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีของประเทศจีน ก็ไม่สามารถที่จะล่วงพ้นความตายไปได้ การพิจารณาความตายโดยยศ จึงสามารถพิจารณาโดยนัยอย่างที่กล่าวมานี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-03-2013 เมื่อ 01:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 62 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา