เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๖
ขอให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้เฉพาะหน้า ทำความรู้สึกทั้งหมดอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ตามที่เรามีความถนัด
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๖ เป็นวันจักรีคือวันสถาปนาราชวงศ์จักรี เราจะเห็นว่าราชวงศ์จักรีที่เริ่มตั้งกรุงรัตนโกสินทร์มา ตั้งแต่สมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑) นั้น บ้านเราเมืองเราก็มีการพัฒนาจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาตามลำดับ ต้องกล่าวว่าถ้าเป็นบุคคลสมัยเก่าหน่อย และไม่เคยออกจากบ้านเลย มาเห็นสภาพบ้านเมืองยุคนี้ ก็อาจจะเกิดการตื่นตระหนกตกใจว่าสภาพบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้เชียวหรือ ?
การเปลี่ยนแปลงทั้งหลายนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ชัดเจนแล้วว่า ไม่ว่าร่างกายของเราก็ดี ร่างกายของคนอื่นก็ดี ร่างกายของสัตว์อื่นก็ดี ตลอดจนวัตถุธาตุทั้งหมดก็ตาม มีการเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปในท่ามกลาง และสลายตัวไปในที่สุด ระหว่างที่ดำรงขันธ์อยู่ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีชีวิต หรือสิ่งที่ไม่มีชีวิต ก็ประกอบไปด้วยความทุกข์เป็นปกติ
สิ่งมีชีวิตก็ทุกข์จากการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย การพลัดพรากจากของรักของชอบใจ การเศร้าโศกเสียใจ การปรารถนาไม่สมหวัง การกระทบกระทั่งกับอารมณ์ที่ไม่ชอบใจ เป็นต้น
สิ่งที่ไม่มีชีวิตก็มีสภาวะทุกข์ ก็คือก้าวเข้าไปหาความเสื่อมอยู่ตลอดเวลา ท้ายสุดแม้แต่สิ่งที่แข็งแกร่งมั่นคง อย่างตึกรามบ้านช่องก็ดี ภูเขาก็ดี หรือแม้กระทั่งก้อนหิน ก็ค่อย ๆ เสื่อมสลายพังลงไปตามลำดับ
ถ้าเราไปยึดมั่นถือมั่นว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ต้องมั่นคง ต้องยืนยง ต้องอยู่อย่างที่เราต้องการ เราก็จะประกอบไปด้วยความทุกข์มาก เพราะไปฝืนความเป็นจริง และท้ายสุดสรรพสิ่งทั้งหลายก็ไม่อาจจะยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนเราเขาได้ เพราะว่าทั้งหมดก็ล้วนประกอบขึ้นจากธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ก้าวเข้าไปหาความเสื่อมแล้วก็พัง ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่
ร่างกายของเราก็ดี ของคนอื่นก็ดี ของสัตว์อื่นก็ดี หรือวัตถุธาตุต่าง ๆ ที่ทรงตัวเป็นรูปร่างก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนประกอบของธาตุ ๔ ซึ่งเป็นสมบัติของโลกนี้ ให้เป็นรูปเป็นขันธ์เพียงชั่วคราว สิ่งที่มีชีวิตก็จะมีดวงจิตเข้ามาอาศัยอยู่ เพื่อประกอบกรรมความดี หรือสร้างกรรมความชั่ว แล้วแต่สภาพจิตที่บงการ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-04-2013 เมื่อ 14:22
|