ตัวอย่างในพระไตรปิฎกเรื่องของเศรษฐกิจล้ม กิจการล้มละลาย
คราวนี้เรื่องของเศรษฐกิจล้มก็ดี กิจการล้มละลายเจ๊งไปก็ดี ตัวอย่างในพระไตรปิฎกที่ชัดที่สุดก็คือ อนาถปิณฑิกเศรษฐี ซึ่งเป็นต้นตระกูลของมหาเศรษฐี
แต่ปรากฏว่า บทดวงจะซวยขึ้นมา สำเภาที่ส่งไปค้าขายต่างประเทศ ไปโดนพายุเข้า ไม่รู้ว่าถูกพัดหายไปทิศไหน ข่าวคราวไม่ได้รับเลย กองเกวียนที่ส่งไปค้าขายก็เจอลักษณะเดียวกัน ที่สำคัญที่สุดคือคลังสินค้าริมน้ำโดนน้ำเซาะถล่มลงน้ำไปอีก ท่านแทบจะเหลือแต่ตัว
แต่ว่าท่านเป็นคนที่มีศรัทธาเป็นปกติ ก็ยังคงนิมนต์พระพุทธเจ้าพร้อมกับพระไปฉันที่บ้าน แต่จากที่เคยเลี้ยงด้วยข้าวมธุปายาส ที่ถือว่าแพงมากมีแต่เศรษฐีกินได้ ก็กลายเป็นเลี้ยงด้วยข้าวต้มกับน้ำผักดอง แล้วท่านก็มานั่งเสียใจน้อยใจว่า ทานของเราเศร้าหมองแล้ว
พระพุทธเจ้าตรัสว่า เสฏฐิ...ดูก่อน มหาเศรษฐี "ลูขังวา ปณีตังวา" ไม่ว่าจะหยาบหรือละเอียดก็ตาม ถ้าทานนั้นประกอบด้วย
๑. เจตนาบริสุทธิ์ คือตั้งใจทำทาน
๒. วัตถุทานได้มาโดยบริสุทธิ์ ไม่ได้ลักขโมย หลอกลวง ช่วงชิงใครมา
๓. ผู้ให้คือตัวเราขณะนั้นมีศีลบริสุทธิ์
๔. ผู้รับเป็นผู้ทรงศีลบริสุทธิ์
ถ้าบริสุทธิ์โดย ๔ ส่วนนี้ ทานนั้นจะหยาบหรือประณีตแค่ไหนก็ตามมีผลเต็มร้อย เศรษฐีท่านก็พยายามทำของท่านอยู่เรื่อย ๆ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-04-2013 เมื่อ 02:24
|