พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อ ๒ สัปดาห์ก่อนโดนตำรวจตามล่าทั้ง ๒ สัปดาห์ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ท่านต้องการนิมนต์ไปทำบุญ ครั้งแรกให้หน้าห้องคือ พ.ต.อ. ไพบูลย์ โทรศัพท์ติดต่อไปทางเลขาฯ วัด อาตมาบอกว่าไม่ไป ท่านเลยให้ตำรวจตามหาตัวว่าอาตมาอยู่ที่ไหน ไป ๆ มา ๆ เล่นเอาผู้กำกับทองผาภูมิต้องมาเอง
เรื่องของตำรวจ การบริการเจ้านายสำคัญที่สุด คุณเป็นผู้กำกับทองผาภูมิ พระรูปเดียวนิมนต์ไปให้เจ้านายไม่ได้ คงต้องโดนย้ายไปดาวอังคารแน่เลย..! สงสารท่านผู้กำกับก็เลยต้องรับปากว่าจะไปให้
อาตมาไม่ค่อยคบคนรวยกับผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินหรอก เพราะว่าคนรวยกับผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินจะมีส่วนของทิฏฐิมานะอยู่ ต่อให้ท่านดีแค่ไหนก็ตาม ถ้าหากมีอะไรไม่ถูกใจ อาจจะเข้าใจพระผิดไปได้ แล้วอาตมายิ่งง้อชาวบ้านไม่เป็นอยู่ด้วย ไปวัดอื่นเขาจะต้องเอาอกเอาใจ คอยตามดูแลบริการ ไปวัดท่าขนุนคุณก็ราคาเท่ากับตาสีตาสายายมียายมานั่นแหละ วัดอื่นนักการเมืองไป ดาราไป เจ้าใหญ่นายโตไป ต้องไปถ่ายรูปเอาไว้อวดเขา ไปวัดท่าขนุนราคาเดียวกันหมด ถ้ามาผิดเวลาก็รอไปเถอะ
คุณสะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ กับคุณนฤมล นิลวรรณ ไปตอนกำลังทำวัตรเย็น อาตมาก็ทำวัตรไปเรื่อยเปื่อย ปล่อยให้เขารอไปเถอะ มาผิดเวลาเองนี่นา ท้ายสุดคุณสะอาดอดรนทนไม่ไหวเพราะเวลาไม่มี จะเดินทางต่อ จึงขออนุญาตถวายสังฆทาน ถวายก็จะรับนะ แต่จะให้ไปนั่งสวดมนต์ยาว ๆ ไม่เอา เพราะกำลังทำวัตรอยู่ ดีอยู่อย่างว่าสำหรับอาตมาไม่มี ๒ มาตรฐาน ใครมาก็มาตรฐานเดียวกันหมด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2013 เมื่อ 18:18
|