ดูแบบคำตอบเดียว
  #64  
เก่า 13-09-2013, 20:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,688
ได้ให้อนุโมทนา: 152,000
ได้รับอนุโมทนา 4,417,740 ครั้ง ใน 34,278 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในการเจริญเมตตา มีการบริกรรมแผ่ไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย มีหญิง มีชาย มีพระอริยเจ้า มีมนุษย์ เทวดา พรหม มีโอปาติกกะ ทำอย่างนั้นได้หรือครับ ?
ตอบ : จริง ๆ ควรจะเป็นทั้งหมดพร้อมกัน แต่ว่าบางอาจารย์ท่านแนะนำให้แผ่ไปทีละอย่าง ก็ดีเหมือนกัน อย่างเช่นว่า ให้ผู้หญิง ให้ผู้ชาย ให้พรหม ให้เทวดา แต่อาตมาถนัดให้ทีเดียวหมด เวลาเรากำหนดใจแผ่เมตตาไปถึงระดับหนึ่ง จะเหมือนกับตัวเราโตเต็มแผ่นดินแผ่นฟ้า กระแสเมตตาที่แผ่ออกไป ถึงทุกภพทุกภูมิได้ง่ายมาก ขนาดโลกเราเหมือนลูกอะไรเล็ก ๆ นิดเดียวอยู่ใต้ตัวเรา กำหนดจิตคลุมได้ทั้งโลกเลย ต้องทำลักษณะอย่างนั้น

สภาพจิตของเรามีอยู่ส่วนหนึ่ง คือ มโนมยา สำเร็จด้วยใจ ตั้งใจอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เพียงแต่ความคล่องตัวต่างกันเท่านั้นเอง การแผ่เมตตาเบื้องบนถึงพรหมชั้น ๑๖ เบื้องล่างถึงอเวจีมหานรก เบื้องขวางเป็นโลกธาตุที่ประมาณไม่ได้ ฉะนั้น..จะว่าไปแล้วไม่มีข้อจำกัด


ถาม : ในขณะแผ่เมตตาต้องเป็นฌานไหนครับ ?
ตอบ : จะเป็นฌานไหนก็ได้ ขอให้ได้สักฌานกำลังก็พอแล้ว แต่ถ้าไม่ถึงฌาน เป็นแค่ขณิกสมาธิหรืออุปจารสมาธิ ยังทำไม่ได้แบบนั้น

ถาม : ผมเข้าใจว่าต้องบริกรรมไปเรื่อย ๆ พอแนบแน่นแล้วค่อยแผ่ ?
ตอบ : มีอยู่ ๒ อย่างด้วยกัน คือกำหนดแผ่ไปเรื่อย ๆ แล้วสมาธิจะทรงตัวมากขึ้น ๆ กับอีกอย่างหนึ่งคือเข้าสมาธิให้ทรงตัวไปเลย แล้วค่อยแผ่ออกไป ท่านที่คล่องตัวแค่คิดก็เป็นแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-09-2013 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา