มีโยมที่เป็นศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงด้วยกันมาทำบุญ พระอาจารย์จึงกล่าวขึ้นว่า "นึกถึงสมัยวิ่งรับใช้หลวงพ่ออยู่ด้วยกัน ยังหนุ่มแน่นแข็งแรงกันดี ตอนนี้กลายเป็นแต่ละคนลูก ๆ โตกันหมดแล้ว อาตมาเองไม่รู้รอดมาได้อย่างไร ไม่ได้คิดจะบวช ตั้งใจจะบวชแค่ ๗ วันยังอยู่เรื่อยเปื่อยมาได้ ขนาดก่อนบวชยังเรียนถามหลวงพ่อ ถามแล้วถามอีกว่าตกลงจะเอากี่วัน กลัวจะบวชนาน ...(หัวเราะ)...
ตอนนั้นมาพิจารณาดูว่า ตัวเองก็อายุพอสมควร ๒๗ ปีเข้าไปแล้ว แม่เรียกร้องให้บวชมาทุกปี ก็บวชให้ท่านไม่ได้สักที แล้วอยู่ ๆ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านขอให้บวชให้ท่านสักหน่อย ก็มาคิดว่า โอกาสอย่างนี้ไม่เคยมีมาก่อน แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ เสียดายชีวิตฆราวาส รู้สึกว่าเป็นฆราวาสเราก็ปฏิบัติได้ ถ้าไปเป็นพระแล้วจะเสี่ยงนรกมาก..! ตอนนั้นความคิดของตัวเองคือ ต้องปฏิบัติให้ได้อย่างน้อยเป็นพระโสดาบันก่อน หรือถ้าจะเอาปลอดภัยก็เป็นพระอนาคามีไปเลย แล้วค่อยไปบวช บวชเข้าไปแล้วให้โยมเขาไหว้ได้เต็มมือไปเลย
แต่ปรากฏว่าเป้าหมายที่หวังเอาไว้นั้น ไม่ใช่เป้าหมายในชีวิตของฆราวาส ทำเท่าไรก็ไม่ถึงสักที คราวนี้หลวงพ่อท่านไปบนพระเอาไว้ เนื่องจากตอนนั้นภายในวัดพวกไสยศาสตร์ระบาดมาก ฝ่ายที่รับเคราะห์ก็เป็นบรรดาสารพัดหมา ท่านเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วลงมาจากข้างบน เพื่อมาถวายการรับใช้หลวงพ่อ ในเมื่อเขามีน้ำจิต หลวงพ่อก็มีน้ำใจ เห็นว่าเขามาอยู่วัดแล้วตายแทนพระแทนเณรได้ ท่านก็เลยบวชพระให้พวกเขา
ท่านบอกว่าจะบวชพระให้เขา ๓ รูปด้วยกัน อาตมาก็ไปชวนเพื่อนคนอื่นบวช เขาก็ปฏิเสธกันหมด ไปได้ลุงพุฒิคนเดียว แกชื่อพุฒิจริง ๆ นะ อายุมากกว่าก็เลยเรียกลุงพุฒิจนติดปาก ตอนนั้นลุงพุฒิอายุ ๔๐ กว่าปีแล้ว อาตมา ๒๗ ปีเรียกแกเป็นลุงก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหรอก
มากราบเรียนหลวงพ่อว่า “ตกลงผมจะบวชให้ครับ แต่ว่าผมหาได้แค่อีกคนเดียว ยังขาดอยู่คนหนึ่ง” ท่านบอกว่า “เฮ้ย..ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น คนของข้าไม่เคยขาด” แล้วก็จริง ๆ จาก ๒ คนโด่เด่ พรวดเดียวกลายเป็น ๓๖ คน ต้องการ ๓ คนกลายเป็น ๓ โหลไปเลย แล้วก็หมดเกลี้ยง สูญพันธุ์ เหลืออาตมาโด่เด่อยู่คนเดียว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2013 เมื่อ 10:29
|