อีกท่านหนึ่งที่รู้จักแล้วท่านไปได้ไม่ถึงที่สุด ก็คือ ท่านพระเทพวิสุทธิเวที วัดอนงคาราม (หลวงพ่อท่านเจ้าคุณไสว) สมัยสงครามโลกท่านเป็นเพื่อนร่วมวงน้ำปลาพริกป่นกับหลวงพ่อวัดท่าซุงมาด้วยกัน รุ่นนั้นจะมีหลวงพ่อเจ้าคุณสรภาณกวี เจ้าคุณกวีวงศ์ เจ้าคุณเทพวิสุทธิเวทีนั่นแหละ
ท่านมรณภาพแล้วไปเป็นพรหมชั้นที่ ๖ ท่านไม่เคยเจริญกรรมฐานเลยแล้วไปได้อย่างไร ? ท่านบอกว่า "หลวงพ่อแกสอนอยู่ทุกวัน เจอหน้าเมื่อไร ฤๅษีลิงดำท่านก็พ่นใส่หูเรา.." คือท่านเป็นเพื่อนกัน ท่านก็ล้อกันเล่น พูดกันแบบเพื่อน ท่านบอกว่าต้องทำกำลังใจอย่างนั้น ต้องทำกำลังใจอย่างนี้ เราไม่มีเวลาปฏิบัติสักที พอมะเร็งกินเข้า เจ็บจนหาทางไปไม่ได้ก็นึกถึง “เจ้าคุณวีระพูดถูกเว้ย ถ้าไม่เอาตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปเอาตอนไหน” ก็เลยพยายามภาวนาเพื่อระงับกายสังขาร คือไม่ให้อาการเจ็บปวดกำเริบมาก แต่ท่านเองเป็นแบบฉุกเฉิน ประเภทขี้จะแตกแล้วค่อยขุดส้วม ก็ยังดีว่าสามารถทรงสมาธิได้
ถ้าพรหมชั้นที่ ๖ หรืออาภัสราพรหมต้องทรงฌาน ๒ ละเอียดได้ ระงับอาการเจ็บปวดได้แล้วท่านก็มรณภาพ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-10-2013 เมื่อ 20:17
|