สมัยก่อนอย่างสายของหลวงปู่มั่น ถึงเวลาท่านจะมาประชุมรวมกันที่สำนักของครูบาอาจารย์ แล้วแต่ว่าท่านธุดงค์ไปอยู่ตรงไหน ถึงเวลาก็สนทนาธรรม ไต่ถามเรื่องของการปฏิบัติ ตนเองทำอย่างไร ไปถึงไหน มีอาการอย่างไร ให้ครูบาอาจารย์ช่วยบอก ช่วยแก้ไขให้ ถ้าเราสามารถปรับในลักษณะอย่างนี้ได้ แบบเดียวกับสมัยที่อาตมาอยู่กับพี่ ๆ น้อง ๆ ที่วัดท่าซุง การปฏิบัติของเราจะก้าวหน้ามาก ๆ
แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าในสมัยนั้นที่วัดท่าซุง ท่านที่จะเอาแบบนี้ส่วนใหญ่เป็นพระใหม่ อาตมาเองตอนนั้นก็เพิ่งจะ ๒ - ๓ พรรษา ที่พรรษามากหน่อยก็จะมีหลวงตาวัชรชัย มีหลวงพี่อาจินต์ มีหลวงตาสมชาย ส่วนใหญ่ก็ประเภทอย่างอาตมาหรือท่านอาจารย์สมปอง กลายเป็นว่ารุ่นเก่าเกิดความล้า เหตุที่เกิดความล้าเพราะว่ามัวแต่รอหลวงพ่อท่านบอก ส่วนอาตมาเองรับฟังโอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุงวันแรกที่บวช แล้วถือเป็นหลักปฏิบัติตลอดชีวิต คือ "ตอนนี้คุณบวชเข้ามาแล้ว บุคคลที่เป็นพระถือว่ามีความเป็นผู้ใหญ่พอ หนังสือมี เทปมี ไปอ่านเอา ไปฟังเอา แล้วปฏิบัติตามนั้น ถ้าติดขัดตรงไหนค่อยมาถามผม"
อาตมาอยู่กับหลวงพ่อ ๗ พรรษาเต็ม ๆ ถ้าบวกกับระยะเวลาฆราวาสอีก ๑๑ ปีก็คือ ๑๘ ปี มีคำถามแค่ ๔ ครั้งเท่านั้น ส่วนใหญ่ที่ถามก็คือเป็นช่วงการเปลี่ยนอารมณ์ ที่อาตมาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่านั่นคืออะไร สำหรับเรื่องอื่นไม่เคยถาม เพราะถ้าเราทำจริง จะได้คำตอบในการกระทำของเราเอง อาตมาขอยืนยัน ถ้าทุกคนทำจริง คำตอบจะอยู่ในนั้นเอง ขอให้ทำให้จริงเท่านั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-11-2013 เมื่อ 18:35
|