ดูแบบคำตอบเดียว
  #79  
เก่า 24-01-2014, 14:19
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,889 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๕. บัณฑิตคือผู้รู้ ย่อมรู้จักเอาตัวเองรอดก่อน จึงจักไปโปรดบุคคลอื่นให้รอด พระตถาคตเจ้าเป็นแบบฉบับทุก ๆ พุทธันดร ทรงปฏิบัติตนให้พ้นทุกข์ก่อน จึงค่อยออกโปรดเวไนยสัตว์ แก้จิตของตนให้หลุดออกจากบ่วงกามตัณหา - ภวตัณหา - วิภวตัณหา หลุดจากรัก - โลภ - โกรธ - หลง จึงนำผลของการปฏิบัติอันได้แล้วกับจิตของตนเอง ออกมาเผยแพร่ประกาศเป็นสัจธรรม คือคำสั่งสอนทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์นั้น พระอริยสงฆ์สาวกอันเป็นบัณฑิต ผู้รู้ตามก็รับหน้าที่เป็นพุทธบุตรสืบทอดตลอดกันมา จนกว่าจักสิ้นวาระของอายุพระพุทธศาสนาในแต่ละพุทธันดร

บุตรของตถาคตมี ๔ เหล่า คือ ภิกษุ - ภิกษุณี - อุบาสก - อุบาสิกา เวลานี้ภิกษุณีหมดไปจากพุทธันดรนี้ แต่จักมีเหล่าเดียรถีย์อ้างขึ้นมาให้มีภิกษุณีให้ได้ คงเหลือแต่ ภิกษุ - อุบาสก - อุบาสิกา อันการเข้าถึงพระพุทธศาสนาก็สุดแล้วแต่การปฏิบัติของแต่ละคน กรรมคือการกระทำขึ้นอยู่กับบารมี คือกำลังใจของแต่ละคนนั้น ๆ ทุก ๆ พุทธันดรก็เป็นอย่างนี้เหมือนกันหมด ไม่มีใครทำแทนกันได้ ทุกคนมีกรรมคือการกระทำเป็นของตนเองทั้งสิ้น ผู้ใดหมั่นตรวจสอบศีล - สมาธิ - ปัญญา หรือ อริยมรรคมีองค์ ๘ ด้วยจิตของตนเอง มิใช่ไปตรวจที่ผู้อื่น ผู้นั่นย่อมมีพระนิพพานเป็นที่ไป และผู้นั้นแหละเป็นลูกตถาคตอย่างแท้จริง

อะไรมากระทบ... อายตนะยังมีก็ต้องรับรู้ นี่เป็นเรื่องธรรมดา แต่ให้หมั่นเอาเหตุที่มากระทบนั้น.. พิจารณาให้เข้าสู่ไตรลักษณ์ ทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ปล่อยวางให้ได้ด้วยปัญญา อย่าไปแก้โลก ให้แก้ที่จิตของตนเอง แล้วจักถึงฝั่งพระนิพพานได้ง่าย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-01-2014 เมื่อ 16:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา