ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 15-03-2014, 11:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,804 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเราเห็นแล้วว่า สิ่งที่เป็นโทษทั้งหลายเกิดขึ้นจากอายตนะของเรา ก็คือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของเรานั่นเอง ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอินทรีย์ จักขุนทรีย์ ตาเป็นใหญ่ในการเห็น โสตินทรีย์ หูเป็นใหญ่ในการได้ยิน ฆานินทรีย์ จมูกเป็นใหญ่ในการได้กลิ่น ชิวหินทรีย์ ลิ้นเป็นใหญ่ในการได้รส กายินทรีย์ กายเป็นใหญ่ในการสัมผัส มนินทรีย์ ใจเป็นใหญ่ในการครุ่นคิด

เราจึงต้องปฏิบัติในข้อธรรม คือ อินทรียสังวร ให้เคยชินเข้าไว้ เมื่อเรามีความสำรวมเคยชินอยู่เป็นปกติ อันดับแรกก็คือสามารถกางกั้นระมัดระวัง ไม่ให้รัก โลภ โกรธ หลง มากินใจของเราได้ อันดับต่อไปก็พยายามสร้างสติ สมาธิ ปัญญา ของเราให้เข้มแข็งยิ่ง ๆ ขึ้น จนกระทั่งรู้เท่าทัน เห็นทุกข์เห็นโทษ ว่าถ้าหากเรารับเอารูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ เข้ามาแล้วไปปรุงแต่ง จะเกิดทุกข์เกิดโทษอย่างไร

เมื่อเห็นชัดเจนก็จะเกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด หมดความต้องการที่จะไปปรุงแต่งในสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น จิตเราก็จะเบา ถอดถอนออกจากกองทุกข์กองกิเลสได้ ก็สามารถก้าวเข้าสู่พระนิพพานได้อย่างที่พวกเราทั้งหลายต้องการ

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาหรือพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2014 เมื่อ 13:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา