ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 19-03-2014, 18:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,049 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานนั้นประกอบไปด้วยความทุกข์ ก็คือหากินไม่ได้ดั่งใจ ต้องอด ๆ อยาก ๆ อิ่มบ้างอดบ้างเป็นปกติ ปรารถนาอะไรก็ไม่สามารถที่จะบอกผู้อื่นได้ มีความทุกข์ทั้งทางกายและทางใจเป็นปกติ ในเขตการความเป็นเปรตนั้น ส่วนใหญ่ต้องอดอยากหิวโหยอยู่ตลอดเวลา มีเสียงเรียกให้ไปกินข้าวกินน้ำ เดินตามอยู่เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี เดินจนหมดเรี่ยวหมดแรง หาแหล่งที่มาไม่ได้ ต้องทนทุกข์ทรมานหิวโหยอยู่ตลอดเวลา

เกิดเป็นอสุรกายก็ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับใคร จะออกหาอาหารแต่ละทีก็ต้องระมัดระวังตัวสุดชีวิต ก็แปลว่ากินก็ไม่ได้ดั่งใจ มีแต่ความกลัวอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นสัตว์นรกก็ต้องโดนทุกข์ทรมาน ไหม้อยู่ในขุมนรก มีอาวุธสับฟันแทงอยู่ตลอดเวลา ของเราแค่โดนไฟจี้นิดเดียวก็รู้สึกว่าร้อน มีความปวดแสบเป็นปกติ แต่สัตว์นรกมีไฟเผาอยู่ตลอด ไม่เว้นว่างแม้แต่นิดเดียว

ถ้าเราต้องตกลงสู่อบายภูมิไม่ว่าระดับใดระดับหนึ่ง แปลว่ามีความทุกข์มากกว่าตอนเป็นมนุษย์มาก ดังนั้น..ถ้าเราเอาฉันทะคือความยินดีและพอใจในด้านอื่น ๆ มาใช้ในการปฏิบัติธรรม ทุ่มเทให้กับการปฏิบัติธรรม คือต้องประกอบไปด้วยความเพียรไม่ย่อท้อ และมีกำลังใจที่แน่วแน่มั่นคงต่อเป้าหมาย ตลอดจนกระทั่งใช้ปัญญาทบทวนอยู่เสมอว่าเราทำอะไร เพื่ออะไร เป้าหมายอยู่ที่ไหน ปัจจุบันเราทำไปได้เท่าไร ยังเหลืออีกมากน้อยเท่าไรที่ต้องเร่งขวนขวายให้มากขึ้น ถ้าเราประกอบไปด้วยอิทธิบาทเช่นนี้ การปฏิบัติธรรมของเราจะมีแต่ความก้าวหน้า ถึงไม่สามารถปิดอบายภูมิได้อย่างถาวร ก็จะปิดอบายภูมิได้ชั่วคราว

เมื่อท่านทั้งหลายมาปฏิบัติธรรมด้วยหวังความหลุดพ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สูงส่งและไกลเหลือเกิน แล้วเราปราศจากความพากเพียร ความแน่วแน่มั่นคงต่อจุดหมายปลายทาง เราจะไปถึงได้อย่างไร ? จึงขอฝากทุกคนเอาไว้ว่า ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น เมื่อยินดีและพอใจแล้ว ก็ต้องพากเพียรให้เต็มกำลังของเรา ไม่ต้องกลัวเหนื่อยยาก ไม่ต้องกลัวว่าทำมากเกินไปแล้วจะตาย ทุ่มเทลงไปทั้งชีวิต ต้องเอาชีวิตเข้าแลกจึงประสบความสำเร็จได้ แล้วขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการพิจารณาไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอ ๆ เพื่อที่จะได้ไม่ผิดไปจากเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ ถ้าสามารถทำอย่างนี้ได้ เราถึงจะมีโอกาสหลุดพ้นไปสู่พระนิพพานตามที่ต้องการ

ลำดับต่อไป ขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้าอ่อน)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2014 เมื่อ 19:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา