พระอาจารย์กล่าวถึงกฐินที่นราธิวาสว่า "หนักใจตรงที่เขารับเราไป ระหว่างทางซึ่งตายได้ทุกจุด ไม่รู้จะโดนระเบิดหรือโดนปืนตรงไหน โดยเฉพาะพวกเราออกข่าวล่วงหน้าไปเป็นเดือน ๆ ถ้าเป็นอาตมาละก็ ซุ่มยิงทิ้งไปนานแล้ว
ถ้ำคูหาภิมุข เขาว่าเป็นแหล่งมนุษย์ตั้งแต่โบราณ มีภาพเขียนสีอยู่ด้วย ที่นั่นนอกจากหลวงพ่อพระนอนจะศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยักษ์ที่เฝ้าประตูยังเคยถือกระบองออกมาเดินเทิ่ง ๆ ตรงจุดนั้นแหละ พระตายเป็นที่แรกของปักษ์ใต้ เดินบิณฑบาตอยู่ โจรขี่มอเตอร์ไซค์มาฟันหัวทิ่มเลย
เดี๋ยวนี้ในวัดทางปักษ์ใต้จะมีทหารเข้าไปอาศัยอยู่ แต่ระหว่างคนระวังกับคนจ้องหาโอกาส คนระวังอย่างไรก็พลาด โดยเฉพาะวิธีการของทหารนี่ปกติเขาจะไม่ซ้ำรอยเดิม แต่คราวนี้สถานที่ราชการ วัด หรือว่าโรงเรียนอยู่ที่เดิม เท่ากับให้เขากำหนดจุดได้ว่า เขาจะเอาตรงไหนเป็น Killing Zone เพราะฉะนั้น..คนทำงานปักษ์ใต้เครียดตายห่... ต่อให้คุณฝึกมาเก่งขนาดไหนก็ตาม ถ้าไปเดินซ้ำรอยเดิม มีโอกาสตายสูงมาก ถ้าเป็นอาตมานี่จ้างก็ไม่นอนที่ค่ายทหาร ไปหาที่นอนใต้ต้นไม้ดีกว่า แต่คราวนี้นอนแล้วที่ไม่กรนอย่างอาตมาคงหายาก คนอื่นนอนใต้ต้นไม้แล้วกรนไป ๓ บ้าน ๘ บ้านก็ตายอีก..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-07-2014 เมื่อ 14:18
|