นักปฏิบัติจริง ๆ ต้องไม่แคร์สื่อ ถ้ามัวแต่ฟังคำชาวบ้านก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไร ใครจะว่าบ้า เราก็บ้าไปกับเขา นี่ยังดี สมัยหลวงพ่อฤๅษีฯ มีคุณยายท่านหนึ่ง มาจากทางชายแดนตาพระยา ไม่แน่ใจว่าทั้งหมู่บ้านหรือทั้งตำบลมีท่านปฏิบัติธรรมอยู่คนเดียว แล้วคนทั้งหมดเขาว่าคุณยายท่านบ้า คุณยายคนนี้ก็มาถามหลวงพ่อฤๅษีฯ ที่บ้านสายลม มาถึงแต่เช้ามืดเลย นั่งรถมา ๒ วัน สมัยนั้นเดินทางจากตาพระยามากรุงเทพฯ ไม่ใช่เรื่องง่ายนะจ๊ะ เพราะว่าถนนสายใหม่ที่ออกทางจันทบุรี - สระแก้วยังไม่มี ต้องวิ่งไปนครนายกเข้าปราจีนบุรี กว่าจะถึงตาพระยาต้องหยุดกินข้าวกลางวันกลางทาง
อาตมาเองสมัยนั้นประจำการอยู่ที่นั่น ก็ต้องไปแวะกินข้าวที่ปราจีนบุรีก่อน แล้วค่อยเดินทางต่อ นั่งรถมาเป็นวัน แล้วก็ไม่รู้คุณยายออกจากหมู่บ้านมาอย่างไร บอกว่ากว่าจะมาถึงนี่ ๒ วัน มาเพื่อจะถามปัญหากับหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่าสิ่งที่คุณยายทำนั้นบ้าหรือเปล่า ? หลวงพ่อฤๅษีฯ ก็บอกว่า "ยายปกติดี แต่พวกนั้นทั้งหมู่บ้านน่ะบ้า" คุณยายนุ่งขาวห่มขาว ถือศีลเข้าวัดสวดมนต์ ทุกคนก็หาว่าคุณยายบ้า
แต่ว่าคุณยายใช้ภาษาส่วยปนเขมรปนไทย ฟังยากอย่าบอกใครเลย พอดีว่าอาตมาเคยไปอยู่ชายแดนเขมรมาปีกว่า จึงพอฟังรู้เรื่อง พอคุณยายพูดมาทั้งบ้านสายลมมึนหมด หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า “เฮ้ย...ใครฟังออก ช่วยเป็นล่ามให้หน่อย” อาตมาก็บอกว่า "ผมพอได้ครับ" แล้วก็แปลให้ท่านฟัง ปรากฏว่าเพิ่งจะรู้ว่าจริง ๆ หลวงพ่อท่านฟังออก แล้วท่านเข้าใจด้วย เพียงแต่ว่า ท่านก็เกรงว่าถ้าไปรู้ทุกเรื่อง เดี๋ยวจะลำบากกันทีหลัง ท่านก็เลยหาคนแปล ที่รู้ว่าท่านฟังออกเพราะว่าพอแปล ๆ ไปแล้วอาตมาเหนื่อยก็หยุด คุณยายก็ถามต่อ แล้วหลวงพ่อตอบตรงคำถามเป๊ะ ถ้าคนฟังไม่รู้เรื่องจะตอบได้อย่างไร
สรุปว่าคนที่จะเอาจริงเอาจังในการปฏิบัติต้องไม่แคร์สื่อ ว่าอย่างนั้นเถอะ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 15:48
|