หลวงพ่อบอกว่า "ดูโปรแกรมแล้ว ปีนี้เป็นปีโหดมาก ที่ว่าเป็นปีโหดมากเพราะว่ามันมีงานใหญ่ที่ต้องทำเยอะ ช่วงที่ผ่านมาก็เป่ายันต์เกราะเพชร แล้วก็พิธีเสกพระขรรค์โสฬส ตามด้วยงานวันเกิดเจ้าคณะจังหวัด ถัดไปเดือนสิงหาคม ก็ทำบุญให้พ่อให้แม่ เดือนกันยายนทำบุญถวายหลวงปู่สาย ปลายเดือนก็งานนิโรธกรรมครูบาวิฑูรย์ เดือนตุลาคมกฐินที่วัด เดือนพฤศจิกายน...ต้นเดือนก่อนจะมาบ้านอนุสาวรีย์ไปงานกฐินของหลวงพ่อสิงห์ วัดถ้ำป่าไผ่ ตกลงว่าแต่ละเดือนนี่อย่างน้อย ๆ ต้องวิ่งงานใหญ่
วันที่ ๑ พฤศจิกายน เจอกันที่ถ้ำป่าไผ่นะ ไปช่วยหลวงพ่อสิงห์ท่านหน่อย เพราะว่าท่านเป็นหนี้เขาอยู่เป็นล้านเลย โดนเขาหลอก คนมันก็หลอกคนแก่ได้ลงคอ เขาปลอมหนังสือของสำนักพระราชวังไปขอรับเงินบริจาคท่านล้านหนึ่ง ท่านก็อุตส่าห์ไปหามาให้เขา ตัวเองเป็นหนี้เขาก็ยอมเพราะคิดว่าช่วยในหลวง จริง ๆ หารู้ไม่ว่าโดนหลอก ก็เลยเป็นภาระว่าต้องใช้หนี้
หลวงพ่อสิงห์เป็นพระที่น่ารักมาก เวลาท่านมีงานจะโทรมานิมนต์ แต่เรามักจะไม่ว่าง ท่านบอกว่าถ้าพระน้องไม่ว่าง ก็มาแบบนั้น.. ตัวไม่ต้องมาก็ได้
คราวนี้ท่านโทรมาบอกให้ช่วยท่านหน่อย "ตุ๊ป้อบ่ไหวแล้ว อายุ ๗๒ ปีนี้" พี่สิงห์เป็นพระที่เย็นโดยธรรมชาติ อาจเป็นเพราะว่าท่านเกิดภาคเหนือก็ได้ คนเหนือจริตนิสัยจะเป็นคนเยือกเย็น ใจเย็น พูดช้า ทำช้า ถ้านับแล้วท่านเป็นศิษย์ท่าซุงรุ่นแรก ๆ เลยที่ออกจากวัด หลวงพี่สิงห์ท่านออกจากวัดปี ๒๕๒๓ ปีที่หลวงตาชลอบวช หลวงตาชลอบวชนี่พี่สิงห์ออกไปผจญภัยแล้ว แล้วท่านว่าอย่างไรรู้ไหม "ตุ๊ป้อบารมีน้อย...บ่เหมือนน้องดอก ทำอะไรมันยากไปหมด กว่าวัดจะเสร็จ" ท่านก็เลยบอกอายุ ๗๒ ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ช่วยไปเป็นประธานกฐินให้สักงานหนึ่ง ท่านหวังว่าก่อนตายใช้หนี้หมดก็พอ ก็เลยรับปากท่านไป
ดังนั้น ขอแรงพวกเราไปช่วยงานกฐิน วันที่ ๑ ไปช่วยปลดหนี้ให้พระ ถึงเวลาเราจะได้หมดหนี้ไปด้วย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-11-2010 เมื่อ 10:30
|