เมื่อครู่พระครูแสงฝากเอกสารมา บอกว่าให้ช่วยแจกแก่ญาติโยมด้วย อาตมาอ่านไปบรรทัดกว่า ๆ ก็เจอที่ผิด ท่านเขียนว่า "คนเราเกิดมาไม่ยึดดีก็ยึดชั่ว ยึดชั่วก็ลงนรกไป ถ้ายึดดีก็ไปพระนิพพาน ไปสวรรค์" อาตมากากบาททิ้งไปเลย
คนเรายึดดียังไปพระนิพพานไม่ได้ การจะไปพระนิพพานต้องพ้นทั้งดีทั้งชั่วไปแล้ว แต่แรกเริ่มต้องเกาะดีไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต เพราะว่ากุศลผลบุญของความดีนั้น ส่งผลให้รับความสุข ความสะดวกสบายโดยส่วนเดียว แต่พอทำไป ๆ จนถึงที่สุด ก็จะวางดีไปเองโดยอัตโนมัติ เหมือนกับคนขึ้นที่สูง ต้องเกาะราวบันไดเพื่อความปลอดภัย พอถึงชั้นบนแล้ว บางทีปล่อยราวบันไดตอนไหนตัวเองก็ไม่ทันจะรู้ตัว
ดังนั้น..การไปพระนิพพานถ้ายังเกาะดีก็ไปไม่ได้ เกาะชั่วก็ไปไม่ได้ กำลังใจเมื่อถึงตอนนั้นแล้ว ก็จะอยู่ที่หลังเสื้อกระโถนข้างธรรมาสน์นั่นแหละ รู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว รู้ว่าดีเราทำ เพราะว่าสิ่งนั้นเป็นความดีจริง ๆ อย่างหนึ่ง สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่นักปราชญ์ท่านสรรเสริญอย่างหนึ่ง เราดำเนินตามความดีอย่างนั้น ย่อมไม่ผิดทั้งทางโลกทางธรรม
รู้ว่าชั่วก็ละ ค่อย ๆ ลดละไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็หมดไปเอง ในเมื่อรู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ สภาพจิตไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว ก็ผ่ากลางพ้นไปได้ ฉะนั้น..ที่บอกว่าเกาะดีแล้วไปพระนิพพาน ขอยืนยันว่ายังไปไม่ได้ แต่ก็ต้องเอาเอาไว้ก่อน เดี๋ยวพอถึงเวลาเบื่อมาก ๆ ก็จะปล่อยไปเอง กอบโกยความดีไว้มาก ๆ ก่อน จน “ดีพอ” ก็จะเกิดความ “พอดี” ในเมื่อความดีมีพอ ก็จะเริ่มรู้ว่าอะไรที่พอดี ก็จะเริ่ม “วางดี” เมื่อวางดีได้ก็จะก้าวพ้นดี หลังจากนั้นไปไหนก็ไม่รู้ เพราะว่าเกินสมมติบัญญัติไปแล้ว อธิบายเป็นภาษามนุษย์ไม่ได้ ทำเองแล้วจะรู้ เขาเรียกว่าปัจจัตตัง ผู้ที่ปฏิบัติจะพึงรู้ได้ด้วยตนเอง ปัจจะ คือเฉพาะตน อัตตะ คือตัวตน ปัจจัตตังคือเฉพาะตนเอง
มีคนบอกว่าใครไม่มาปฏิบัติธรรมงวดนี้เสียดายตายเลย เพราะว่าหลวงพ่อกินยาผิด บอกหมดทุกอย่างเลย คนที่อยู่ก็ไม่ต้องดีใจหรอก บอกไปจะจำได้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-11-2014 เมื่อ 21:44
|