หลวงตาบัวท่านบอกว่า ท่านเดินจงกรมอยู่ ๆ ชนต้นไม้โครมเลย เพราะสภาพจิตหักล้างกับกิเลสอยู่ข้างใน ไม่ได้สนใจที่จะดูข้างนอก พอชนโครมเข้าไปคลำ ๆ ดู อ้าว..สุดทางจงกรม กลับหลังเดินใหม่ เดินไปข้างในก็ฟันกับกิเลสต่อไป เดี๋ยวก็อีกโครมหนึ่ง ชนต้นไม้อีกแล้ว ยังดีว่าตอนนั้นสมาธิคุ้มได้ ไม่อย่างนั้นกว่าจะเลิกก็คงหัวหูปูดหมด
ฉะนั้น..ในส่วนนี้ผมยืนยันกับพวกท่านทุกคนว่า ถ้าหากว่าตั้งใจเอาดี พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้ายังสมบูรณ์บริบูรณ์อยู่ เรามีสิทธิ์ที่จะได้มรรคได้ผลกันทุกคน พิจารณาดูตัวเราเองว่าเราทำผิดวิธี หรือยังทำไม่พอ ผมมั่นใจว่าถ้าทำตามที่ผมบอก หรือทำตามที่ฟังจากหลวงพ่อวัดท่าซุง..ไม่ผิดหรอก ก็เหลืออย่างเดียวคือเรายังทำไม่พอ
และโปรดอย่าใจร้อน ค่อย ๆ สั่งสมความดีของเราไป เก็บเล็กเก็บน้อยไปเรื่อย ภาวนาวันนี้กำหนดลมหายใจได้แค่ ๓ คู่โดยไม่ฟุ้งซ่านก็ได้มา ๓ คู่ ได้ ๕ คู่โดยไม่ฟุ้งซ่านก็ได้ ๕ คู่ ไม่ได้ขาดทุน ได้ทุกวัน แต่ถ้าวันไหนได้เยอะ ๑ ชั่วโมงใจทรงเปรี๊ยะเลย ก็ได้มาอีก ๑ ชั่วโมง ไม่ใช่ว่ารุ่งขึ้นจะต้อง ๑ ชั่วโมงด้วย ได้บาทเอาบาท ได้สลึงเอาสลึง จะได้ห้าพันได้หมื่นก็เอา แต่ว่าต้องทำไว้ทุกวัน แรก ๆ เรายังไม่เห็นผลเพราะต้นทุนน้อย โอ่งหรือถังใบใหญ่ กว่าน้ำจะหยดเต็มก้นโอ่งได้ก็นานเหลือเกิน แต่พอเริ่มเห็นหน้าเห็นหลังแล้ว ขึ้นมานิ้วหนึ่งแล้ว ขึ้นมาคืบหนึ่งแล้ว ขึ้นมาครึ่งโอ่งแล้ว คราวนี้เราจะรู้ว่าต้นทุนเรามีมาก เพียงแต่ว่าได้สำรวจต้นทุนของตัวเองหรือเปล่าเท่านั้นเอง ?
ขอให้ค่อย ๆ สั่งสมความดีไปตามระยะเวลา การปฏิบัติของเราสามปีห้าปีไม่มีอะไรก้าวหน้าขึ้นเลย ขอให้รู้ว่าเรากำลังจะก้าวหน้า แต่อยู่ในช่วงของการสั่งสมกำลัง ต้องย้ำแล้วย้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีกในจุดเดิม ถ้ากำลังพอเมื่อไรก็จะก้าวล่วงจุดนั้นไปได้ ไม่อย่างนั้นก็ติดอยู่นั่นแหละ อย่าเบื่อเสียก่อนนะ ขอให้รู้ว่าเราอาจจะเจอกำแพงหนาหน่อย ตั้งหน้าตั้งตาเจาะไปเรื่อย เดี๋ยวก็ทะลุเอง อย่าได้เปลี่ยนที่ อย่าได้เปลี่ยนวิธีเป็นอันขาด เพราะถ้าเปลี่ยนเมื่อไรแปลว่าเราต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
ฉะนั้น..ในเมื่อพวกเราบวชเข้ามาแล้ว ถือว่าใจหินพอที่จะแลกกับกิเลส เพราะว่าขึ้นสูงไม่ได้ก็ต้องลงต่ำ ของพระเราอาศัยชาวบ้านกิน จัดเป็นปูชนียบุคคล โอกาสที่จะไปกลาง ๆ ไม่มีหรอก ไม่สูงสุดก็ต่ำสุดไปเลย เพราะฉะนั้น..ต้องทุ่มเทครับ “เกิดเป็นชายหมายมาดว่าชาติเชื้อ ถึงปะเสือก็จะสู้ดูสักหน” ลองดูว่าเสือตายหรือเราตาย ของญาติโยมด้วยนะ..ไม่ใช่แต่ของพระ
ทุกสิ่งที่ว่าไปให้ถือเป็นคำสั่งแล้วทำตาม อย่าฟังเป็นคำสอน ถ้าฟังเป็นคำสอนจะกลายเป็นลมผ่านหูไปเฉย ๆ ฟังเสียงตามสาย นั่นคือคำสั่งของหลวงพ่อวัดท่าซุง กำลังบอกให้เราทำตามนั้น ถ้าเช่นนั้นจะมีโอกาสเจริญ แต่ถ้าฟังแล้ว “เออ..ท่านกำลังสอนกรรมฐานอยู่” ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไรหรอก วันนี้เวลาหมดแล้ว เอาแค่นี้แหละ ฟังมากไปก็เหมือนกับกินมาก ท้องอืดเปล่า ๆ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2014 เมื่อ 13:18
|