พระอาจารย์กล่าวว่า
"มีดหมอเล่มนี้ ถ้าเป็นลูกศิษย์สายวัดท่าซุง เขาเรียกว่า ดาบฟ้าฟื้น เป็นมีดหมอที่หลวงพ่อวัดท่าซุงให้ทำขึ้นมา ในช่วงที่วัดท่าซุงมีการฝังลูกนิมิต ซึ่งในหลวงเสด็จไปตัดลูกนิมิตด้วยพระองค์เอง ช่วงนั้นหลวงพ่อวัดท่าซุงให้ไปกวาดมีดหมอมาหมดตลาดพยุหะคีรีเลย ทั้งเล่มเล็กเล่มใหญ่ เอามาตีคำว่า ภปร.- สก. ลงไป ขนาดเอามาจนหมดตลาดแล้ว ยังมีประมาณ ๖๐ เล่มเท่านั้น
อาตมาก็ไม่ทัน แต่เจ้าของมีดหมอเล่มนี้จริง ๆ คือ หลวงตาเจริญ ฐิตธมฺโม ซึ่งเป็นพระที่อาวุโสที่สุดในวัดช่วงนั้น อาวุโสกว่าหลวงพี่โอ (พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร) อาวุโสกว่าท่านเจ้าคุณอนันต์ (พระภาวนากิจวิมล) อีก หลวงตาเจริญบอกว่า "ท่านเล็ก..ผมอยากจะสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ที่บ้านเกิดสักองค์หนึ่ง ช่วยผมหน่อยได้ไหม ?" ก็ถามว่า "หลวงตามีอะไรให้ผมบ้างล่ะ ?" หลวงตาบอกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวก็มีมีดหมอดาบฟ้าฟื้นเล่มนี้อยู่เล่มเดียวแหละ "หลวงตาเอามาให้ผม ผมมีเงินอยู่เท่าไร เดี๋ยวผมถวายหลวงตาหมดเลย"
อาตมาก็ควักย่ามนับเงิน ให้ทุกคนเดาว่ามีเงินให้หลวงตาเท่าไร ? ทุกวันนี้ยังไม่เชื่อเลยว่าตัวเองจะมีเงินตั้ง ๑๑๒,๕๐๐ บาท มาได้อย่างไรไม่รู้ ? ไม่มีวันที่อาตมาจะมีเงินในย่ามได้มากขนาดนั้น เพราะตอนนั้นเพิ่งจะบวชได้ ๔-๕ พรรษาเอง จะไปเอาศรัทธาญาติโยมมาจากไหน ? กลายเป็นว่ามีดหมอเล่มนี้ ราคาเมื่อ ๒๕ ปีก่อนคือแสนกว่าบาท..!"
ถาม : ราคาตอนนี้ละครับ ?
ตอบ :
เล่มนี้ก็คงต้องราคาเท่านั้น เล่มอื่นไม่รู้ ?
เนื่องจากว่าอาตมาจะปลุกเสกมีดหมอเพชราวุธ พระท่านบอกว่าให้เอามีดหมอของครูบาอาจารย์มาเป็นองค์ประธาน จะได้รวมสายความรู้ที่ศึกษามา มีดหมอหลวงปู่รุ่ง วัดหนองสีนวล มีแล้ว มีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ มีแล้ว ขาดของหลวงพ่อวัดท่าซุง เพราะเพิ่งให้เขาประมูลไป ใครประมูลไปนะ..คุณชวงใช่ไหม ? ประมูลกันบนรถไฟ
มีดหมอเล่มนี้ ตอนออกจากวัดท่าซุงไปอยู่ทองผาภูมิใหม่ พี่สุรกานต์..พี่ชายของอาตมาขอไป อาตมาจึงบอกพี่สุรกานต์ว่า เอาเล่มนั้นมาที เดี๋ยวจะคืนให้แสนหนึ่ง ปรากฏว่าพี่สุรกานต์ไม่เอาเงิน ถวายคืนมาสร้างพระพุทธรูปทองคำทั้งหมด สมัยก่อนตอนออกธุดงค์ อาตมาจะพกมีดหมอเล่มนี้ติดตัวเป็นประจำ ก่อนออกจากวัดท่าซุง พี่สุรกานต์ขอจึงให้ไป ตอนนั้นพี่เขาเอาสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๙ นิ้วไปองค์หนึ่ง มีดหมอเล่มหนึ่ง และน้ำมัน ชาตรี ๒ ลิตรครึ่ง อาตมาเอาน้ำมันชาตรีไปเข้าพิธีเอง แล้วเก็บไว้ใช้ พี่เขาเห็นว่าอาตมา "สละราชสมบัติ" เพื่อออกป่าแล้วก็เลยขอ แต่ก็ไม่ได้เอาไปทำอะไร นอกจากเอาไปรักษาไว้เท่านั้น อาตมาก็เลยบอกว่าจะใช้งาน ให้เอามาคืน ให้เงินแล้วพี่เขาก็ไม่เอา บอกว่าถึงเป็นเงินส่วนตัวก็ไม่เอา ถวายคืนมาจนหมด
เป็นเรื่องอัศจรรย์จริง ๆ ว่า หลวงตาเจริญไปสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ซึ่งราคาทั้งปิดทองตอนนั้นรวม ๆ ประมาณ ๗๕,๐๐๐ บาท คราวนี้ไม่มีอาคาร ก็คงจะเหลือไว้สร้างอาคารด้วย
เป็นไปได้อย่างไร พระใหม่ ๆ มีเงินติดย่ามอยู่แสนกว่า นับไปยังงง ๆ เลย บอกว่า "หลวงตา..มีเงินขนาดนี้ผมยังตกใจเลย ผมรับปากว่าจะถวายหลวงตาหมด หลวงตาเอาไปทั้งหมดเลยก็แล้วกัน" ไม่รู้ว่าหลวงปู่หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ หรือพ่อแม่ที่ไหนของท่าน อยากจะร่วมสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ก็ไม่รู้ ? เอามายัดใส่ย่ามให้ อาตมารับปากไว้แล้วว่าให้หมดเลย..ก็ต้องให้
เรื่องนี้เจอมาจนตัวเองไม่แปลกใจแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่ง เพิ่งจะมารับสังฆทานที่กรุงเทพฯ เป็นปีแรก ๆ จำได้ว่ารับเงินไปไม่กี่หมื่นหรอก แต่ไปจ่ายค่าวัสดุก่อสร้าง มากกว่าที่รับไว้เป็นเท่าตัว ก็คิดว่าคงต้องติดหนี้เขาไว้ก่อน แต่นับไปนับมา เงินกลับพอที่จะให้เขา ไม่รู้ว่างอกมาตอนไหน เพราะตอนลงบัญชีก็ตรวจสอบดีแล้ว
มีดหมอเล่มนี้ ถ้าไม่มี ภปร.- สก. นะ เขาจะตีว่าเป็นมีดหมอหลวงพ่อเดิม เพราะว่าช่างสอนรุ่นเก่าเขาทำ ฝีมือก็เลยเป็นฝีมือเดิม
หลวงปู่รุ่ง วัดหนองสีนวลเป็นลูกพี่ลูกน้องกับหลวงปู่เดิม วัดหนองโพธิ์ เพราะ ว่าแม่ของหลวงปู่รุ่งกับแม่ของหลวงปู่เดิมเป็นพี่น้องกัน แต่หลวงปู่รุ่งอายุมากกว่า บวชก่อน ๑๑ พรรษา ศึกษาวิชาทำมีดหมอมาจากหลวงปู่เทศ วัดสระทะเล มีดหมอของหลวงปู่รุ่งส่วนใหญ่ตีด้วยมือทั้งตัวมีดและแผ่นเงินหุ้มมีด หลวงปู่เดิมก็ศึกษาวิชาจากหลวงปู่เทศ ทำมีดหมอทีหลังหลวงปู่รุ่ง แต่หลวงปู่เดิมดังกว่า มีลูกศิษย์ที่มีฝีมือเป็นมาตรฐานเดียวกันมาอาสาทำให้ อย่างช่างฉิม ช่างสอน ช่างไข่ ก็เลยทำให้มีดหมอหลวงปู่เดิมมีเอกลักษณ์ที่พิจารณาได้ ว่าเป็นฝีมือใครทำ
แต่มีดหมอของหลวงปู่รุ่งยิ่งมีเอกลักษณ์ใหญ่ เพราะท่านฝังตะกรุดบนสันมีดทุกเล่ม ขณะที่หลวงปู่เดิมฝังตะกรุดในด้ามมีด ที่อาตมาฝังตะกรุดบนสันมีดหมอเพชราวุธ ก็ถอดแบบมาจากตำราของหลวงปู่รุ่งนี่แหละ แต่ทำเป็นตะกรุดสามกษัตริย์แบบหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า คาถาและยันต์ในการเขียนตะกรุดเป็นของหลวงพ่อวัดท่าซุง ส่วนการฝังตะกรุดมหาสะท้อนที่ด้าม ก็ถอดแบบมาจากหลวงปู่เดิม แต่ตะกรุดมหาสะท้อนก็เป็นตำราของหลวงพ่อวัดท่าซุงเช่นกัน
มีดหมอหลวงปู่เดิมบางเล่ม เจ้าของถักซองมีดด้วยหวาย ลวดลายงามสุด ๆ เสียดายที่อาตมาไม่มีเวลาที่จะถักเชือกเป็นซองมีด มีคาถาขอดเชือกสงครามของหลวงพ่อวัดท่าซุง เป็นคาถาของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ถ้ามีเวลาค่อย ๆ ทำก็ได้ แต่อาตมาไม่มีเวลา ตามตำราต้องการแค่ ๓ ขอด เราก็ทำเป็นซองมีดไปเลย ตอนนี้ธุดงค์ไปป่าไหนก็ไม่ต้องกลัวแล้ว ลุยได้เต็มที่
ถาม : จะออกให้ประมูลไหมครับ ?
ตอบ :
เล่มนี้ไม่ได้ อุตส่าห์ปล้นคืนมา จะเอามาเป็นประธานในการพุทธาภิเษกมีดหมอเพชราวุธ
มีดหมอรุ่นนี้แหละ หลวงพ่อวัดท่าซุงถวายในหลวงไปเล่มหนึ่ง และถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารไปเล่มหนึ่ง ตอนนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ก็อยู่ด้วย แต่ว่าด้วยความที่เป็นผู้หญิง หลวงพ่อท่านจึงไม่ได้ถวายไป
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตรัสว่า เสียบไว้ที่บังแดดของรถแล้วอาราธนาได้ไหม ? หลวงพ่อทูลว่า "ถ้าอย่างนั้นจะคุ้มได้ทั้งคันเลย" สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร บุญ ท่านดีนะ นอกจากเกิดเป็นพระราชโอรสองค์เดียวของในหลวงแล้ว สมัยก่อนหลวงปู่หลวงพ่อต่าง ๆ มีอะไรดี ๆ จะทำถวายพระองค์ท่านกันทั้งนั้น ตอนนั้นหลวงพ่อไท วัดไทรย้อยที่เพชรบุรี สร้างเสือมหาอำนาจ ก็ถวายพระองค์ท่าน หลวงพ่อวัดท่าซุงก็ถวายมีดหมอรุ่นนี้ ส่วนในหลวงพอรับมีดหมอไปแล้ว พระองค์ท่านแต่งชุดทหารไป ก็ใส่ในกระเป๋าฉลองพระองค์เลย
ตอนนี้พระที่ร่วมพิธีพุทธาภิเษกมีดหมอเล่มนี้ เหลือหลวงพ่อวิชาอยู่องค์เดียว หลวงพ่อวิชา วัดศรีมณีวรรณ ที่ถือว่าไปช้าก็คือหลวงพ่ออุตตมะและหลวงปู่ครูบาวงศ์ หลวงปู่บุดดาก็ไปช้าเหมือนกัน ท่านมรณภาพหลังหลวงพ่อวัดท่าซุงหลายปี ท่านอยู่จนกระทั่ง ๑๐๓-๑๐๔ ปี
หลวงพ่อวิชาตอนนี้อายุ ๗๐ กว่าแล้วกระมัง ? สมัยก่อนอาตมาเรียกหลวงพี่ สมัยนี้แก่ ๆ ไปด้วยกัน ต้องเรียกว่าหลวงพ่อ
"เรื่องของมีด เรื่องของปืน เจ้าของต้องขยัน ถ้าไม่ขยันดูแลเช็ดถู เดี๋ยวสนิมก็เอาไปกิน คิดดู..เล่มนี้ ๓๗ ปีเข้าไปแล้ว ถ้าดูแลไม่ดี ป่านนี้คงชักไม่ออก สนิมกินติดฝักไปแล้ว
อาตมาศึกษาเรื่องมีดตอนแรก ๆ อ่านตำราฝรั่ง เขาบอกว่า keep it clean and dry ก็คือต้องทำให้สะอาดและแห้ง
อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมีต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๗