หลังเสียกรุงครั้งที่สอง ปรากฏผู้มีความสามารถออกมารับราชการรับใช้แผ่นดิน
มีผลงานเป็นที่โดดเด่นจำนวนมาก ประหนึ่งน้ำป่าหลากทำลายภูมิประเทศเดิม
พ้นผ่านไปก็ผุดรัตนชาติออกเกลื่อนกลาด
หนึ่งในเอกบุรุษที่ประวัติศาสตร์ได้จารึกชื่อไว้ คือเจ้าพระยาพระคลัง(หน)
ขณะบ้านเมืองมีศึกสงครามก็รับใช้แผ่นดินในด้านการทหาร ครั้นบ้านเมืองสงบ
ก็แสดงอัจฉริยภาพในด้านบุ๋น ไม่ว่าจะเป็นงานหนังสือ งานประพันธ์ทั้งร้อยแก้ว
และร้อยกรอง หากก้าวหน้าในราชการอย่างที่สุดในด้านงานคลัง ดูจากบรรดาศักดิ์
สุดท้าย คงต้องเป็นมือวางอันดับหนึ่งของแผ่นดินในด้านเศรษฐกิจเลยเชียว
ดูเหมือนจะเป็นหนังสือสามกรุงของ น.ม.ส. ที่เล่าถึงอัจริยภาพเกินมนุษย์ของ
ท่านเจ้าพระยาว่า ครั้งหนึ่งในแผ่นดินสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ขณะที่เจ้าพระยาฯ
ยังดำรงตำแหน่งอาลักษณ์ รับราชการใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท
มีพระบรมราชโองการให้เจ้าพระยาฯ (ขณะนั้นคงจะยังเป็นคุณหลวง หรือคุณพระ)
ร่างหนังสือราชการ เจ้าพระยาฯ บังเอิญลืมไปกระทั่ง ๒-๓ วันให้หลัง ล้นเกล้าฯ
ทวงถาม ด้วยความเกรงพระอาญาฯ เจ้าพระยาฯ จึงทำเป็นเปิดหนังสืออ่านถวาย
พอจบคำ ก็มีพระราชวินิจฉัยว่า ดี แต่ดูเหมือนมีที่ไม่ถูกพระทัยเล็กน้อย ตรัสแล้ว
ก็ดึงหนังสือจากมือเจ้าพระยาฯ ไปเพื่อจะทอดพระเนตร ทรงเห็นเป็นกระดาษเปล่า
ก็ยกทั้งสมุดฟาดศีรษะเจ้าพระยาฯ คืนมา พร้อมคาดโทษให้ไปร่างมาให้เหมือนปากพูด
มิฉะนั้นจะโดนลงอาญา เจ้าพระยาก็สามารถร่างหนังสือถวาย รอดพ้นโทษไปได้
นี่แหละครับคือหนึ่งในคนดีศรีอยุธยา กำลังสำคัญที่ช่วยกู้บ้านกู้เมืองคืนมา
ให้ไทยยังคงเป็นไทยกระทั่งทุกวันนี้
ในบั้นปลาย ท่านเป็นแม่งานก่อสร้างเขามอวัดราชคฤห์ แล้วเขียนกลอน
เป็นอนุสรณ์ไว้ ชอบใจที่สุดคือตอนท้ายที่ท่านอธิษฐานเอาอานิสงส์
คงจะโดนใจอีกหลายคน
.......
ขอตั้งปรารถนาศิวาลัย
แม้ยังไป่ล่วงลุแก่มรรคผล
จะเที่ยวท่องอยู่ในท้องชเลวน
จงอย่าพ้นสมบัติสองประการ
กำเนิดภพมนุษย์ให้ไพบูลย์
ในตระกูลกษัตริย์มหาศาล
เป็นชายชาตินักปราญช์อันปรีชาญ
อนึ่งให้พานพบพุทธพยากรณ์
แม้อุบัติในสวรรค์ชั้นใดใด
จงเป็นอธิปไตยอดิศร
ให้รู้รสธรรมาในอาวรณ์
เป็นที่อมรเทพอัญชลี
หนึ่งแม้นจะเวียนวนในชนชาติ
ให้นิราศอบายทุกข์ทั้งสี่
กว่าจะเสร็จศิวโมกข์โมลี
บุรีรัตน์มหานิพพานเอย ฯ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คนเก่า : 25-05-2009 เมื่อ 14:28
|