ดูแบบคำตอบเดียว
  #178  
เก่า 17-04-2015, 17:18
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,321 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๑๕. การทำบุญทำทานแล้วพิจารณาถึงบุญและทานนั้น อันทำเพื่อพระนิพพานโดยไม่หวังผลตอบแทน จัดเป็นจาคานุสติด้วยและอุปสมานุสติด้วย อารมณ์อยู่กับกุศล ซึ่งดีกว่าปล่อยจิตคิดถึงแต่ความชั่ว - ความเลว แม้แต่ผู้อื่นเขาทำบุญ ทำทานก็ให้เห็นเป็นธรรมดา เห็นแล้วให้ยินดีด้วย แล้วปล่อยวาง จิตจักได้บริโภคอารมณ์ที่ไม่เป็นพิษ เพราะปกติจิตมักจักไหลลงสู่อารมณ์ที่เป็นกิเลส จิตชินกับความเลวมากกว่าความดี เวลานี้เราจักมาละความเลวกันก็จักต้องละกันที่จิต ฝึกจิตให้ชินอยู่กับทาน - ศีล - ภาวนา ให้ติดดีมากกว่าติดเลว ให้สอบอารมณ์ของจิตไว้เสมอ อย่าคิดว่าบุญ - ทานไม่ติดแล้ว ฉันไม่เกาะทั้ง ๆ ที่จิตยังติดเลวอยู่อีกมากมาย หากบุญ - ทานทำแล้วไม่เกาะ แม้เห็นผู้อื่นทำแล้ว โง่ - หยิ่ง ไม่เกาะ ไม่ยินดีด้วย จิตก็ยิ่งเศร้าหมองปานนั้น ทำบุญทำทานแล้วก็เหมือนไม่มีผล เพราะจิตไม่ยินดีกับบุญกับทานนั้น จึงเท่ากับจิตติดบาปอกุศล นับว่าขาดทุนแท้ ๆ พระอรหันต์ท่านยังทำบุญ ทำทานด้วยความยินดีกับบุญและทานนั้น จิตเป็นสุข คำว่าไม่เกาะของพระอรหันต์คือ ไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ในโลกธรรม ๘ จิตไม่เกาะบุญบาปในที่นี้ เนื่องด้วยผลบุญผลบาปไม่สามารถให้ผลแก่จิตใจของท่านอีก แล้วพวกเจ้าเล่า ? จิตยังข้องอยู่ในบาปอกุศลอยู่เป็นอันมาก หากพูดว่าไม่ติดในบุญ ในทาน ทั้งที่จิตยังติดบาปกุศลอยู่ การทำบุญ ทำทานแล้วก็เหมือนไม่ได้ทำ

จงเอาอย่างพระอรหันต์ ท่านยังไม่ทิ้งจาคานุสติกรรมฐาน อภัยทานอันเป็นทานภายในสูงสุดในธรรมทาน เกิดขึ้นด้วยพรหมวิหาร ๔ เป็นอัปมัญญา พระอรหันต์ไม่ข้องอยู่ในบาปอกุศลของบุคคลรอบข้าง เพราะท่านมีอภัยทานอยู่ในจิตเสมอ แล้วพวกเจ้ามีแล้วหรือยัง ? เพราะฉะนั้น จงอย่างประมาทในอกุศลกรรม พยายามรักษาจิตให้ผ่องใสไว้ด้วยการระลึกนึกถึง การทำบุญ - ทำทาน - รักษาศีล - เจริญภาวนาด้วยจิตที่ยินดี ทำทุกอย่างเพื่อพระนิพพานจุดเดียว ดีกว่าปล่อยให้จิตตกเป็นทาสของบาปอกุศล

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-04-2015 เมื่อ 19:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา