อะไรที่เก็บ ๆ ไว้อาตมาก็เก็บไปอย่างนั้นเอง ถึงเวลาก็ให้คนอื่นหมด จนบางคนเขาเห็นอาตมาให้อะไรคนอื่นไป เขาถามว่าตัดใจได้อย่างไร ? อาตมาบอกว่า “นี่ไม่ได้ตัดเลยนะ เพราะไม่ได้อยู่ในใจแต่แรกแล้ว”
มีอยู่เที่ยวหนึ่ง ตอนนั้นอยู่ที่วัดทองผาภูมิ พวกบรรดาชาวบ้านเขามาประท้วง เพราะเจ้าอาวาสเก่ากลัวว่าอาตมาจะไปเบียดตำแหน่งเขา เห็นทำนั่นทำนี่ใหญ่โตแล้วชาวบ้านเขาศรัทธา กลัวว่าอาตมาจะไปเบียดตำแหน่ง ก็เลยพาพรรคพวกเขามาประท้วง มาแค่ ๗-๘ คนเท่านั้นแหละ เสร็จแล้วทางคณะสงฆ์ก็บ้าจี้ เพราะว่าช่วงนั้นหลวงพ่อวัดท่ามะขามท่านจะตั้งให้อาตมาเป็นรักษาการเจ้าคณะอำเภอ พวกที่อยากได้ก็เลยร่วมหัวกัน ประเภทกล่าวหาว่าอาตมาไปทำลายของสงฆ์ คือของที่หมดสภาพอาตมาก็รื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ จึงมีการสอบสวนกัน
อาตมาก็ถือไมค์ให้พูดทีละคนไปเลย พอสอบเสร็จสรรพเรียบร้อย ไม่มีปัญหาคาใจอะไรอาตมา ก็กลับมานอนที่วัดท่าขนุน พอนอนไปประมาณ ๒ ทุ่มกว่า อ้าว..ลืมย่าม ลืมย่ามทิ้งไว้ที่วัดทองผาภูมิ ในย่ามก็มีมีดหมอชาตรี ใบมีด ๗ นิ้วของหลวงพ่อวัดท่าซุงอยู่เล่มหนึ่ง ลุกขึ้นหัวพ้นหมอนมาได้สักคืบหนึ่ง ก็ทิ้งตัวนอนลงไปใหม่ คิดว่า “ถ้าของแค่นี้ตัดไม่ได้ มึงจะไปตัดอะไรได้วะ” แล้วก็หลับต่อ
ปัญญามาเร็วมาก ๆ เลย ประเภทหัวพ้นหมอนไปไม่ถึงคืบความรู้สึกวูบขึ้นมาเลย “ถ้าแค่นี้มึงตัดไม่ได้ แล้วจะไปตัดอะไรได้” เลยทิ้งตัวลงนอนต่อเลย รุ่งเช้าค่อยไปดู ยังอยู่..ไม่มีใครกล้าหยิบ
เขาเองคงประเภทกำลังใจตัวเองคิดอย่างไร ก็คิดว่าคนอื่นคิดอย่างนั้น อาจจะคิดว่าอาตมาขุดบ่อล่อปลาทิ้งไว้ก็ได้ เดี๋ยวจะไปแจ้งความว่าขโมยของ บังเอิญเรื่องชั่ว ๆ แบบนี้อาตมาเลิกทำมานานแล้ว ทุกวันนี้พวกชาวบ้านเขาบ่นว่า “ดูสิ..วัดท่าขนุนเจริญเอา ๆ พวกตัวถ่วงโลก หนักแผ่นดิน ไม่อยากได้พระอาจารย์เล็ก วัดวาอารามดูไม่ได้เลย” แล้วจะบ่นไปทำไม ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2015 เมื่อ 18:20
|