๙.เรื่องของร่างกาย ต้องหมั่นดูหาความจริงเอาไว้เสมอ จักได้มีปัญญาเกิดขึ้นกับจิต มิใช่ท่องจำเอาเป็นเพียงสัญญา รู้สักเพียงแต่ว่ารู้แค่สัญญาก็วางอะไรไม่ได้เลย (ทรงตรัสสอนอุบายไว้มากมายหลายวิธี ตามจริตนิสัยของคนซึ่งทำกรรมมาไม่เหมือนกัน ใครพอใจวิธีใดก็หมั่นพิจารณาวิธีนั้น) ให้มองชีวิตร่างกายที่เห็นอยู่นี้มันเป็นของใครก็ไม่รู้ มันคืออะไรกันแน่ เป็นของเราหรือของใคร เที่ยงหรือไม่เที่ยง สกปรกหรือสะอาด ควรยึดหรือไม่ควรยึด ดูให้ชัด ๆ จึงจักต้องฝึกสติสัมปชัญญะ (สติ - สมาธิ - ปัญญา หรือสมถะวิปัสสนา ความจริงมันก็ตัวเดียวกัน) จิตมันชินอยู่กับกิเลสมานานแสนนานจึงต้องใช้ปัญญาหาความจริงให้พบว่า ร่างกายชีวิตมันหลอกเรา หรือว่าอารมณ์จิตของเราหลอกเราเอง ดูให้ชัด ๆ หมั่นดูบ่อย ๆ จึงจักวางอุปาทานขันธ์ลงได้ ฝึกจิตให้หมั่นดูกาย พิจารณาชีวิตให้เห็นถึงที่สุดของความทุกข์ นั่นแหละจึงจักวางทุกข์ลงได้ การฝึกต้องไม่ใจร้อน ให้ค่อยๆ ฝึกจิตไป แต่ก็อย่าแชเชือน ปล่อยปละละเลย ให้กรรมฐานว่าไปจากจิต (ไม่ตึง ไม่หย่อนไป ให้เดินสายกลาง) จะเป็นการถอยหลังเข้าคลอง ให้ดูอารมณ์จิตเอาไว้ด้วย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-06-2015 เมื่อ 03:15
|