ดูแบบคำตอบเดียว
  #288  
เก่า 31-07-2015, 12:22
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

เณรเป็นเนื้อ เราเป็นเขียง ถูกหลวงปู่มั่นสับยำ

เหตุการณ์ช่วงหนึ่งเกิดขึ้นที่วัดป่าบ้านหนองผือ ท่านสั่งให้เณรเพ็ง (หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต) ทำอาหารเล็ก ๆ ที่สังเกตว่าถูกธาตุขันธ์หลวงปู่มั่นเป็นประจำทุกวัน ซึ่งหลวงปู่มั่นก็ไม่อยากเสริม จึงหาวิธีขนาบลูกศิษย์ทั้งสอง ดังนี้

“... ของอะไรที่ถูกกับธาตุขันธ์ท่าน เราจะพยายามหามา ๆ ๆ ไม่ให้ท่านรู้นะ รู้ไม่ได้ เณรเพ็ง.. เณรเพ็งละเป็นเขียงรอง ให้เณรเพ็งมาทำ ท่านสับเณรเพ็ง เณรเพ็งเป็นเนื้อบนเขียง เราเป็นเขียง ท่านเป็นมีด.. ยำลง เณรเพ็งก็ไม่ทราบจะปฏิบัติต่อใครอย่างไร

ท่านว่า..มาทำหาอะไร นี่นะ.. บิณฑบาตมาล้นบาตร ๆ กินให้ตาย มันก็ตายนี่นะ ท่านไปอย่างนั้นนะ มายุ่งทำไม’


ท่านว่างั้น อันนี้เป็นเรื่องของท่าน เราก็ไปกระซิบกับเณรเพ็งให้ทำอย่างนั้น ๆ แก้ตัว..เข้าใจไหม หาอุบายแก้ตัว เณรเพ็งก็ทำตามเราทุกอย่าง เพราะเณรก็เคารพเรา

ทีนี้เวลาบิณฑบาตนั่นละ..ที่มันขบขันมาก เณรก็ทำอาหารเล็ก ๆ อยู่ในครัว ตามธรรมดาบิณฑบาตท่านออกหน้า แล้วพระเณรจะหลั่งไหลไปตามท่าน ๆ ลงจากศาลาหอฉันนั่นน่ะ พอท่านออกไปแล้ว พระเณรก็ตามหลังท่านเป็นสายยาวเหยียดไป แต่วันนั้นเผอิญอะไรไม่รู้ พระเณรออกไปหมดแล้ว ท่านยังไม่ไป.. ท่านยังอยู่นั้น

ทีนี้เณรเพ็งก็ว่า ‘กูตาย..พระเณรไปกันหมดแล้ว’ แสดงว่าพ่อแม่ครูอาจารย์ไปแล้วก็เลยวิ่งจากครัว มาพบท่าน

เหอ..มาไงม้าแข่งนี่ จะขับไล่ท่านเพ็งออกจากวัดนะ ม้าแข่งมาจากไหนต้องออกจากวัด เณรนี้มันยังไงกัน เณรม้าแข่งนี่’


โอ๊ะ..กูตายวันนี้ ทำไงท่านจะเอาเณรออกจากวัด ก็เรานั่นแหละจะเป็นคนแก้ไม่ใช่ใคร ไม่สบายเลยวันนั้น บิณฑบาตท่านพูดอะไรกับเรา เราก็นิ่งเฉยไม่พูดเลย ทุกวันมีตอบบ้างอะไรบ้าง วันนั้นนิ่ง ท่านคงจะทราบว่ามหาฯ องค์นี้มันจะตาย วันนี้กูจะไล่เณรเพ็งออกไป มันจะไปแบกเณรเพ็งเอาไว้นี่ กูพูดอะไรมันก็ไม่พูด ท่านรู้นะ เรื่องเหล่านี้รู้หมด

พอฉันเสร็จแล้วเพราะเราเคยปฏิบัติ ฉันเสร็จแล้วไปเช็ดไปกวาดถูที่บริเวณท่านฉัน ให้พระเณรเอานั้นลงไป มีอะไรก็คุยกับท่านเรื่องนั้นเรื่องนี้ไป คุยไปคุยมาดึงเข้ามา ๆ ๆ ใกล้เข้ามาหาเณรเพ็งนี่นะ พอถึงนั้นเฉียดตรงนั้นแล้ว เอ้อ.. ขึ้นเลย

‘ไหน..เณรเพ็งว่าไง ท่านมหาฯ’ ขึ้นเลย เข้าจุดแล้วนี่ จึงกราบเรียนท่าน


เรากราบเรียนท่านอย่างมีเหตุมีผลนะ ท่านก็ฟัง พอสุดท้ายท่านยังไว้ลวดลายนะ เราขอเมตตาจากท่าน เพราะมันลุกลี้ลุกลน มันรีบ มันกลัวจะไม่ทัน มันก็เป็นบ้าง อะไร ๆ นี้ ขอเมตตาเอาไว้เสียก่อน

‘เออ..คราวหลังเป็นอย่างนี้ไม่ได้นะเพ็ง


ท่านรู้เราแล้วตั้งแต่บิณฑบาต เราไม่พูดอะไรเลย มหานี้มันจะอกแตกละวันนี้ กูจะไล่เณรเพ็งหนีคงว่างั้นนะ แต่กับเราท่านก็ไม่ว่าอะไรนะ เรื่องเณรเพ็งนี้ก็มีภาคทัณฑ์เอาไว้

‘เพ็งทำอย่างนี้อีกไม่ได้นะ’ ท่านว่า


นั่นท่านให้อภัยแล้ว แต่มีลวดลายเอาไว้นั้นอีก ท่านเพ็งจึงเป็นเนื้อบนเขียง ข้างบน ก็เป็นท่านนั่นละ สับลงไป เราเป็นเขียงรองเอาไว้ ท่านเพ็งเป็นลาบพอดี เป็นอย่างนั้นละ อยู่กับพ่อแม่ครูนี่เป็นของง่ายเมื่อไร พ่อแม่ - ครูอาจารย์จอมปราชญ์สมัยปัจจุบัน พ่อแม่ – ครูอาจารย์มั่นเป็นจอมปราชญ์ในสมัยปัจจุบัน ไม่อย่างนั้นไม่ทัน ความคิดความอ่านมันก็เกิดขึ้นเอง ปัญญาเมื่อคิดมันเกิดเองให้ทันกับเหตุการณ์ ที่ท่านคล่องแคล่วว่องไว เฉลียวฉลาดแหลมคม เราก็ฟิตของเราว่าตัวโง่ ว่าอย่างนั้นเถอะนะ เป็นตัวจอมโง่เข้ารับกันไม่อย่างนั้นไม่ทันกาล...”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2015 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา