พระอาจารย์กล่าวว่า "ตะกรุดมหาสะท้อนทองคำ รุ่น ๕ เพิ่งจะเข้าพิธีพุทธาภิเษกล่าสุดที่วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่มา ในงานก็มีตุ๊พ่อสิงห์กับหลวงตาวัชรชัยร่วมพิธีด้วย ต้องบอกว่านาน ๆ ทีจะมีตะกรุดมหาสะท้อนเข้าพิธีใหญ่สักครั้งหนึ่ง เพราะปกติเขียนเสร็จก็เสกในตัวใช้ได้เลย
ตะกรุดมหาสะท้อนบังคับเลยว่าต้องเป็นวัตถุมีค่า ต่ำสุดก็คือเงินแท้ หรือนาก หรือทองคำเท่านั้น น้ำหนักต้องไม่ต่ำกว่า ๑ บาท นี่เป็นวัตถุมงคลเนื้อทองคำรุ่นเดียว ที่อาตมาคิดราคาเท่ากับราคาท้องตลาด เพราะราคาวัตถุมงคลในตลาดที่เป็นเนื้อทองคำ คำนวณราคาทองคำที่ใช้ทำออกมาเป็นเงินแล้วคูณด้วย ๓ ก็คือราคาที่เขาออกให้บูชากัน แต่อาตมาคิด ๓ บาทพอดี ถ้าหากจะเอา ๓ เท่าพอดีต้องเกิน ๓ บาทไปหน่อย ๆ เพราะว่าเราจะให้ตะกรุดหนัก ๑ บาทตรง ๆ ไม่ได้ ต้องให้เกินไว้นิดหนึ่ง..เผื่อขาด
ส่วนใหญ่แล้วพอนานไปก็จะมีการเพี้ยน ครูบาอาจารย์ท่านระบุไว้อย่างไรก็ไม่ทำตามนั้น ซึ่งถ้าต้องการให้เป็นมหาสะท้อน แปลว่าน้ำหนักต่ำสุดต้องหนักบาทหนึ่งขึ้นไป และเป็นโลหะมีค่า ก็คือเงิน นาก หรือทองคำ เคยกราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า โลหะมีค่าแต่ละชนิด ทำไมถึงต้องใช้ต่างกัน ? ท่านบอกว่า วัตถุมงคลยิ่งสร้างด้วยโลหะมีราคาสูงเท่าไร พรหม เทวดาที่รักษาก็ยิ่งมีอานุภาพหรือศักดานุภาพสูงเท่านั้น แล้วก็ไม่ต้องไปหาอีก เพราะว่าปกติอาตมาไม่เคยทำตะกรุดเนื้อทองคำเป็นสาธารณะ เพิ่งจะมีครั้งนี้ครั้งแรกและครั้งเดียว ถ้าพระท่านไม่อนุญาตก็ไม่กล้าทำ
ตอนนี้ถ้าใครจะซื้อทองคำ อย่าเพิ่งไปสนใจราคาที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ให้ซื้อเอาไว้ก่อน จะขาดทุนกำไรเล็กน้อยอย่างไรช่าง เพราะอาตมายืนยันว่าอีกไม่นานราคาทองคำจะแพงหูดับ..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2015 เมื่อ 17:13
|