ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 18-08-2009, 02:28
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,002
ได้รับอนุโมทนา 133,158 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink ประวัติและคำสอนของหลวงปู่สิม (หน้า ๒)

ในวัยเด็กนั้น หลวงปู่ท่านอยู่ในครอบครัวชาวนาก็มีหน้าที่ช่วยเลี้ยงควาย
ท่านเล่าว่า ”เฮามีควายเขาตู้อยู่ตัวหนึ่ง มันอยากจะชนเขาอยู่เรื่อย แต่ชนทีไรแพ้ทุกที
เพราะมันไม่มีชั้นเชิงเอาเสียเลย ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเอาหัวงัดลูกเดียว ไม่กี่ทีก็หันหลังวิ่งหนีแล้ว”
มิน่าล่ะ คนไม่มีปัญญา หลวงปู่จึงเรียกว่า ควายเขาตู้
การภาวนาก็เหมือนกัน หลวงปู่เปรียบเทียบให้ฟังว่า

"ต้องรู้จักเลือกอุบายภาวนา พิจารณาอุบายที่ถูกจริต อาศัยความเพียรอย่างเดียวบ่ได้
เหมือนคนกินอาหารต้องรู้จักเลือกกินปลากินไก่บ้าง ไม่ใช่กินเนื้ออยู่นั่นแล้ว
กิเลสมันพลิกแพลงเก่งต้องตามให้ทัน คนรู้จักพิจารณาก็ได้บรรลุธรรมเร็ว
อย่างสาวกในครั้งพุทธกาลตั้งใจจะบวช พอปลงผม ผมตกลงมาเท่านั้นแหละ
ท่านก็ปลงกรรมฐานได้เลยว่าผมไม่ใช่ของใคร ปล่อยวางทุกอย่างก็ได้บรรลุธรรมเลย
แล้วแต่สติปัญญาของคนจะพิจารณา
บางองค์นั่งฟังเทศน์ก็ได้บรรลุเลย อย่างนั้นปัญญาท่านมาก
"

สมัยที่หลวงปู่เริ่มเข้ารุ่นหนุ่มนั้น ท่านสนใจในการเป่าแคน และได้เคยไปเที่ยวล่ากระต่ายกระแตบ้าง
แต่สิ่งบันดาลใจที่ทำให้ท่านอยากออกบวชก็คือ ความสะดุ้งกลัวต่อความตาย ท่านเล่าว่า

“ตั้งแต่ยังเด็กแล้ว เมื่อได้เห็นหรือได้ข่าวคนตาย มันให้สะดุ้งใจทุกครั้ง
กลัวว่าเราจะตายเสียก่อนได้ออกบวช”
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 66 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา