ประวัติและคำสอนของหลวงปู่สิม (หน้า ๒)
ในวัยเด็กนั้น หลวงปู่ท่านอยู่ในครอบครัวชาวนาก็มีหน้าที่ช่วยเลี้ยงควาย
ท่านเล่าว่า เฮามีควายเขาตู้อยู่ตัวหนึ่ง มันอยากจะชนเขาอยู่เรื่อย แต่ชนทีไรแพ้ทุกที
เพราะมันไม่มีชั้นเชิงเอาเสียเลย ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเอาหัวงัดลูกเดียว ไม่กี่ทีก็หันหลังวิ่งหนีแล้ว
มิน่าล่ะ คนไม่มีปัญญา หลวงปู่จึงเรียกว่า ควายเขาตู้
การภาวนาก็เหมือนกัน หลวงปู่เปรียบเทียบให้ฟังว่า
"ต้องรู้จักเลือกอุบายภาวนา พิจารณาอุบายที่ถูกจริต อาศัยความเพียรอย่างเดียวบ่ได้
เหมือนคนกินอาหารต้องรู้จักเลือกกินปลากินไก่บ้าง ไม่ใช่กินเนื้ออยู่นั่นแล้ว
กิเลสมันพลิกแพลงเก่งต้องตามให้ทัน คนรู้จักพิจารณาก็ได้บรรลุธรรมเร็ว
อย่างสาวกในครั้งพุทธกาลตั้งใจจะบวช พอปลงผม ผมตกลงมาเท่านั้นแหละ
ท่านก็ปลงกรรมฐานได้เลยว่าผมไม่ใช่ของใคร ปล่อยวางทุกอย่างก็ได้บรรลุธรรมเลย
แล้วแต่สติปัญญาของคนจะพิจารณา
บางองค์นั่งฟังเทศน์ก็ได้บรรลุเลย อย่างนั้นปัญญาท่านมาก"
สมัยที่หลวงปู่เริ่มเข้ารุ่นหนุ่มนั้น ท่านสนใจในการเป่าแคน และได้เคยไปเที่ยวล่ากระต่ายกระแตบ้าง
แต่สิ่งบันดาลใจที่ทำให้ท่านอยากออกบวชก็คือ ความสะดุ้งกลัวต่อความตาย ท่านเล่าว่า
ตั้งแต่ยังเด็กแล้ว เมื่อได้เห็นหรือได้ข่าวคนตาย มันให้สะดุ้งใจทุกครั้ง
กลัวว่าเราจะตายเสียก่อนได้ออกบวช
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน
อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
|