ดังนั้น..การที่ท่านทั้งหลายมาฝึกปฏิบัติธรรมในวันนี้ เราต้องฝ่าฝนตก ฝ่ารถติดมา ทิ้งหน้าที่การงานต่าง ๆ มา ทิ้งคนที่เรารัก ของที่เรารักมา กำลังใจของท่านทั้งหลายเหล่านี้ ถือว่าเข้มแข็งเพียงพอ คู่ควรต่อการบรรลุธรรมแล้ว เพียงแต่ว่าทำให้ดี ทำให้ถูก ทำให้เข้มข้นและสม่ำเสมอเท่านั้น โดยเฉพาะการรวบรัดตัดเข้าหาอารมณ์ใจของการเป็นพระโสดาบัน ก็คือต้องรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเองแม้ด้วยเหตุแห่งชีวิต ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นละเมิดศีล
ทำความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างจริงใจ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจแม้ด้วยเหตุแห่งชีวิต มีความรู้สึกอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย ตายเมื่อไรเราขอไปพระนิพพานที่เดียว เมื่อวางกำลังใจมั่นคงอย่างนี้ได้แล้ว ก็ให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัยจนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้าอ่อน)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-10-2015 เมื่อ 19:50
|