ในเรื่องการเทศน์นี้ หลวงปู่ตื้อจัดว่าเป็นพระป่ากรรมฐานที่เทศน์เก่งท่านหนึ่ง
แต่เนื้อหาที่เทศน์
มักจะเป็นเนื้อหาสาระที่มาจากการปฏิบัติภาวนาอย่างจริงจังไม่ได้เทศน์เหมือนพระนักปริยัติ ที่มักจะอ้างอิงตำราเสมอ
ในการเทศน์ครั้งหนึ่ง ได้มีพระภิกษุหนุ่มกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นพระนักปริยัติเป็นมหาเปรียญ ได้รับการศึกษาแบบสมัยใหม่ ตามมาฟังหลวงปู่ตื้อเทศน์ด้วย
ในระหว่างที่ฟังหลวงปู่ตื้อเทศน์
พระภิกษุกลุ่มนั้น ก็ได้พูดคุยซุบซิบกันเบา ๆ ซึ่งไม่มีทางที่จะได้ยินไปถึงหลวงปู่ตื้ออย่างแน่นอน
พระภิกษุกลุ่มนั้นต่างซุบซิบกันว่า หลวงปู่ตื้อนี่เทศน์โบราณไม่มีการพัฒนา มีแต่ของเก่า ๆ ไม่ทันสมัย
ในขณะนั้นเอง หลวงปู่ตื้อที่กำลังเทศน์อยู่ ก็หยุดเทศน์อย่างกระทันหัน ราวกับได้ยินเรื่องราวที่กลุ่มพระภิกษุหนุ่มนั้นคุยกัน (ทั้ง ๆ ที่อยู่ห่างมาก และพูดกันแบบซุบซิบเบา ๆ เป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านจะได้ยิน)
หลวงปู่หยุดเทศน์ และเดินมาทางพระภิกษุรูปหนึ่งที่แอบนินทาท่าน ท่ามกลางความงุนงงของบรรดาญาติโยม
พอท่านเดินมาถึงที่ที่พระภิกษุรูปนั้นนั่งอยู่ ก็พูดเสียงดังขึ้นว่า
"เอ้า! คุณเหลน คุณมหา
หลวงตาจะคอยฟังคุณเหลน คุณมหาเทศน์สักหน่อย
ขอให้เทศน์เอาแต่ของใหม่ ๆ นะ"
พระหนุ่มรูปนั้นเห็นโอกาสที่จะเทศน์โชว์ ก็เดินขึ้นธรรมาสน์ด้วยท่าทางที่มั่นใจ ในใจคิดว่าจะเทศน์แบบสมัยใหม่ให้หลวงปู่ตื้อฟัง ตามแบบฉบับของพระปริญญามหาเปรียญ
พระหนุ่มรูปนั้นนั่งบนธรรมาสน์พนมมือขึ้น พร้อมกับเริ่มต้นบทสวดบูชาพระพุทธคุณก่อน
"นะโม..." พระหนุ่มเพิ่งจะเริ่มต้น ก็ต้องหยุดกระทันหัน
เมื่อมีเสียงของหลวงปู่ตื้อดังขึ้น...
"เฮ้ย!...หยุด! หยุด! หยุด!...คุณเหลนหยุด หยุดเลย
หยุด ไม่เอา ไม่เอา
"นะโม" มันของเก่า
มีมากว่าสองพันปีแล้วคุณเหลน...."