ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 21-11-2015, 20:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,893 ครั้ง ใน 34,242 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๘

ขอให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกทั้งหมดของเราอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจออกมา จะกำหนดเป็นฐานเดียว สามฐาน ห้าฐาน เจ็ดฐาน หรือกำหนดรู้ตลอดกองลมก็ตามแต่เราถนัด คำภาวนาให้ใช้ที่เราถนัดมาแต่ดั้งเดิม อย่าเปลี่ยนคำภาวนาบ่อย ๆ เพราะสภาพจิตจะผูกยึดกับคำภาวนาเก่า ถ้าเราเปลี่ยนคำภาวนาบ่อย ๆ สภาพจิตไม่เกิดความมั่นคง สมาธิก็ทรงตัวได้ยาก

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๓๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ เป็นการปฏิบัติธรรมของเดือนพฤศจิกายนวันที่สอง ในช่วงบ่ายได้กล่าวถึงว่า บุคคลที่เข้าวัดแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน แต่ว่าประเภทสุดท้าย ก็คือ ท่านที่ไปปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ เป็นประเภทที่น่าสรรเสริญที่สุด เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้ จะอดทนอดกลั้นต่อสิ่งกระทบทุกอย่าง ถือว่าการกระทบนั้นเป็นการฝึกฝนปฏิบัติตนเอง ทำอย่างไรที่จะละ จะวางให้ได้เร็วที่สุด

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านผู้เป็นนักปฏิบัติทุกคน ก็พึงที่จะยึดถือปฏิปทาในลักษณะแบบนั้น ก็คือ ถือเอาสิ่งกระทบรอบข้างที่เข้ามาเป็นครู เพื่อพัฒนาจิตของเราอยู่ตลอดเวลา อย่าปล่อยให้ครูที่ดีที่สุดที่กระทบแล้วก่อให้เกิด รัก โลภ โกรธ หลง ในใจของเรานั้นหลุดมือไปได้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว เราจะไม่มีวันรู้เลยว่าตนเองฝึกปฏิบัติมาแล้วตอนนี้อยู่ในระดับไหน

สิ่งต่าง ๆ ที่มากระทบนั้น เป็นทั้งสิ่งที่มาตามปกติ แต่ตัวเราไปถือในสักกายทิฐิและมานะ จึงกระทบกระทั่งกัน อีกอย่างหนึ่งก็เป็นการทดสอบกำลังใจโดยเฉพาะ ดังนั้น..ถ้าหากว่าท่านใดเป็นนักปฏิบัติ ย่อมไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงอารมณ์กระทบต่าง ๆ นี้ได้ เพียงแต่ว่าต้องรู้จักควบคุมอารมณ์กระทบนั้น ให้อยู่ในกรอบที่พอเหมาะพอดี หรือถ้าสามารถปล่อยได้ วางได้ โดยไม่ยึดมั่นถือมั่น ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด

เนื่องจากว่า ผู้ใดวางลงได้ก่อน ผู้นั้นย่อมสบายก่อน ไม่ต้องแบกกิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรม ให้หนักอยู่เหมือนกับระยะเวลาที่ผ่านมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2015 เมื่อ 12:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา