ดูแบบคำตอบเดียว
  #141  
เก่า 28-12-2015, 19:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,734
ได้ให้อนุโมทนา: 152,120
ได้รับอนุโมทนา 4,419,658 ครั้ง ใน 34,324 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : ผมถึงได้บอกว่าในสายนี้พอมาถึงญาณ ๑๖ แล้ว ผมเป็นห่วงมากเลย เพราะว่าส่วนใหญ่เท่าที่ผมไปเจอมาก็คือ เขามาส่งอารมณ์ สะกิดตรงโน้นนิด ตรงนี้หน่อย เขาก็เหมาว่าใช่แล้ว ถ้าหากว่าเป็นแบบของผม แค่สังขารุเปกขาญาณนี่จบแล้วนะ ไม่ต้องมีต่อ สังขารุเปกขาญาณ ปล่อยวางในสังขาร สภาพจิตไม่ปรุงแต่ง รัก โลภ โกรธ หลง เกิดไม่ได้ ทุกอย่างก็ดับหมดแล้ว

สมมติเราเห็นถ้วยใบหนึ่ง เราสักแต่เห็นว่าเป็นรูปเป็นนาม นั่นก็คือถ้วย แต่ถ้าเราไปคิดต่อว่า “ถ้วยนี้ใส่น้ำได้ ถ้าได้น้ำแช่เย็นสักนิดหนึ่งก็ดี” นี่เริ่มโลภแล้ว “วันก่อนเราแช่น้ำไว้ ไอ้ห่..นั่นกินหมดแล้วก็ไม่เติมให้ด้วย” นี่โกรธแล้ว “เอ๊ะ...เราเคยไปกินกับสาว เขาสั่งน้ำส้มนี่หว่า ?” นี่ราคะมาอีกแล้ว

เห็นไหมครับว่าถ้วยใบเดียว รัก โลภ โกรธ หลง มาครบเลย ทำอย่างไรที่เราจะหยุดปรุงแต่งได้ สักแต่ว่าเห็น ถ้าเสียงก็สักแต่ว่าได้ยิน กลิ่นก็สักแต่ว่าได้กลิ่น ลิ้นก็สักแต่ว่าได้รส กายก็สักแต่ว่าสัมผัส ถ้าถึงสังขารุเปกขาญาณจริง ๆ สำหรับผมถือว่าจบแล้ว ไม่ต้องไปต่อ เพียงแต่ว่าเข้าถึงแค่ไหน เพราะว่าถ้าจิตไม่ปรุงแต่ง จิตสังขารไม่ปรุงแต่ง ทุกอย่างก็หยุดหมด ดับหมด เขาถึงใช้คำว่าสังขารุเปกขาญาณ ปล่อยวางการปรุงแต่ง อุเบกขาก็คือปล่อยวาง

คุณไปอ่านในมหาสติปัฏฐานสูตรสิ ทุกบรรพจบกิจได้หมดเลย เพราะท่านปิดท้ายว่า นะ จะ กิญจิ โลเก อุปาทิยติ เธอจงอย่ายึดมั่นถือมั่นอะไร ๆ ในโลกนี้ เป็นกำลังใจของพระอริยเจ้าขั้นสูงสุดเลย ฉะนั้น...ไม่ต้องทำครบทุกบรรพหรอกครับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2015 เมื่อ 19:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา