[เถรี]

งานแจกรางวัลสุพรรณหงส์ คนที่ไปร่วมงานแต่งตัวโป๊กันสุดฤทธิ์ ไม่ทราบว่าในสายตาคนทั่วไปแล้วเขารู้สึกอย่างไร ถ้าในสายตาอาตมา เหมือนเขาลดคุณค่าตัวเอง โดยเฉพาะคนไทยเรา ถ้าไม่สิ้นสติจนหน้ามืด อะไรที่ออกไปทางฝรั่งจนเกินไป เขารับไม่ได้หรอก เพราะไม่มีความเหมาะสม เหมือนเขาสร้างราคาให้กับตัวเอง แต่ในสายตาของอาตมากลับเป็นการลดราคา เรื่องความเซ็กซี่นั้นควรเป็นเรื่องของคน ๒ คน ไม่ควรจะเกินนั้น

นึกถึงท่านอาจารย์ ช. ศรีนอก เป็นนักเขียนกลอน จริง ๆ ชื่อ ดร.สมชัย ศรีนอก ท่านบอกว่า เมียจะคลอดทีไร ผมต้องสั่งหมอพิเศษทุกที อาตมาถามว่าทำไม ? ท่านบอกว่า "ผมทนไม่ได้หรอก ที่จะให้พวกนักศึกษาแพทย์ มารุมดูอะไร ๆ ของเมียผม ไม่อย่างนั้นเขาก็เห็นเมียเราเป็นที่ศึกษาของเขา เดี๋ยวคนนั้นก็มาดู คนนี้ก็มาดู ต่อให้คนมาดูเป็นผู้หญิงด้วยกัน เมียผมก็อายเป็น.." เพราะฉะนั้น..เรื่องแบบนี้จึงน่าจะเป็นเรื่องของคนสองคนเท่านั้น

ถ้าเรานึกถึงพระพุทธเจ้า พระองค์ท่านกล่าวเอาไว้ว่า การแสดงออกของผู้หญิงที่แสดงถึงความปรารถนาทางเพศ มีอะไรบ้าง? เช่น การยิ้ม การร้องเพลง การเปิดเผยอวัยวะ จนกระทั่งการอุ้มชูกอดเด็ก พระองค์ท่านบอกว่า เป็นสัญลักษณ์ที่ระบุถึงเรื่องนี้ทั้งหมด สิ่งที่ทรงตรัสเอาไว้ ไม่มีอะไรผิดพลาดหรอก

เรื่องลักษณะนี้สำหรับสังคมบ้านเรา รับเอาวัฒนธรรมเข้ามาโดยไม่มีความยั้งคิด แม้กระทั่งในปัจจุบันโฆษณาก็เน้นความขาว คนไทยเราดำนะ..ขอยืนยัน สยาม แปลว่า ดำตรง ๆ เลย ถ้าหากไม่ดำ ไม่ใช่สยาม พวกขาว ๆ นี่มีเชื้อจีนทั้งนั้น

เพราะฉะนั้น..ที่โฆษณาอยู่ทุกวันนี้ มีแต่จะทำให้คนหยิบโหย่ง สำรวย ขี้เกียจ โดนแดดไม่ได้ โดนแล้วเดี๋ยวดำ ถ้าหากเราทำให้เด็กหยิบโหย่ง สำอาง ต่อไปจะเอาตัวไม่รอด ทำอะไรไม่เป็น พูดง่าย ๆ ว่า ถ้ากระเด็นไปอยู่ในเกาะ หรือกลางป่ากลางทะเลคนเดียว มีสิทธิ์ตายได้เลย ต่อให้มีอาหารกองอยู่ตรงหน้า ก็ทำไม่เป็น แล้วบุญเขาก็ไม่ได้ดีขนาดพระอนุรุทธเสียด้วย

พระอนุรุทธบุญท่านสุดยอดจริง ๆ เขาถามว่า ภัตเกิดจากไหน ? (ภัตก็คืออาหาร) ถามว่า อาหารเกิดจากไหน ? ท่านหนึ่งบอกว่าเกิดในนา เพราะเคยเห็นเกิดเป็นต้นข้าวอยู่ อีกท่านหนึ่งบอกว่าเกิดในยุ้ง พระอนุรุทธบอกว่า เกิดในจาน แม้กระทั่งเขาทำอย่างไรพระอนุรุทธยังไม่เคยเห็น เห็นเฉพาะตอนเสร็จแล้ว มาวางอยู่ในจานให้เลย เพราะฉะนั้น..ถ้าหากลูกหลานบุญไม่ได้ถึงขนาดพระอนุรุทธ ช่วยชี้แจงด้วยนะ เดี๋ยวจะอดตายเสียเปล่า ๆ


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ ณ บ้านอนุสาวรีย์
เดือนมีนาคม ๒๕๕๒