"เทศน์ ๒ ธรรมาสน์ส่วนใหญ่เป็นพระสกรวาทีกับพระปรวาที ก็คือผู้หนึ่งจะสมมติตัวเองว่าสงสัยในข้อธรรม แล้วก็ไปถามอีกผู้หนึ่งที่ถือว่าเป็นผู้มีความรู้ ตอบกันไปโต้กันมา ญาติโยมก็จะได้ธรรมะบันเทิง สนุกเฮฮาไปตามเรื่อง
ถ้าหากว่าเป็นเทศน์ ๓ ธรรมาสน์ เขาเรียกว่าเทศน์แจง มีท่านหนึ่งต้องสมมติตนเป็นพระมหากัสสปะ องค์ประธานในการสังคายนาพระไตรปิฎก องค์หนึ่งสมมติตนเป็นพระอานนท์ วิสัชนาในส่วนของพระธรรม ก็คือพระสูตรกับพระอภิธรรม อีกองค์หนึ่งสมมติตนเป็นพระอุบาลี วิสัชนาเรื่องพระวินัย แต่ส่วนใหญ่จะถามเรื่องอะไรมาก็ตอบกันไปตามเพลง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2016 เมื่อ 17:11
|