"ท่านทั้งหลายที่มีประสบการณ์สมาธิตก พอปล่อยทิ้งไปนาน ๆ จะเอาคืนยากสุด ๆ หลายรายถึงขนาดออกอาการท้อไปเลย เพราะว่าไปปล่อยให้กิเลสมีกำลังมากกว่า แล้วเจ้าพวกนั้นฉลาดมาก ที่เข็ดก็เพราะว่า ถ้าเปิดโอกาสให้อาตมาแล้ว อาตมาเอากิเลสตายแน่ กิเลสก็เลยชิงเล่นงานเสียก่อน กลายเป็นว่ากิเลสฉลาดกว่าเรามาตลอด แต่เราเองไม่เคยรู้เท่าทันกิเลสเลย ก็ทำให้การปฏิบัติของเราปีแล้วปีเล่าที่ผ่านมา บางคนทำมามากกว่าอายุของบางคนในที่นี้ก็มี แต่ยังไม่ก้าวหน้าเสียที ก็เพราะว่ายังไม่เข็ดจริง ๆ
ถ้าเข็ดจริง ๆ จะรู้จักใช้ปัญญา ใช้ปัญญาในปธาน ๔ คือความเพียร ๔ ประการ มี สังวรปธาน รู้จักระมัดระวังไม่ให้กิเลสเข้ามาในใจของเรา ปหานปธาน พยายามที่จะขับไล่กิเลสในใจของเราออกไป ภาวนาปธาน สร้างความดีให้เกิดขึ้นในใจของเรา อารักขานุปธาน เพียรพยายามรักษาความดีแล้วทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป หน้าที่เรามีแค่นี้เอง แต่ส่วนใหญ่แล้วก็คือ เห็นการหกล้มหกลุกเป็นความมันในชีวิต ถึงได้ไม่เข็ดสักที
เรามีเวลาในการทดลองไม่มากนัก เพราะว่าชีวิตเป็นของน้อย ตามที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระนิพนธ์ไว้ ชีวิตเป็นของน้อย จะตายลงไปเมื่อไรก็ไม่แน่"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2016 เมื่อ 16:29
|