พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาลืมเอาวัตถุมงคลให้ "เอ้" ไปลอง เห็นเอ้ไปเปิดร้านแล้วคู่แข่งเยอะ มีปลัดขิกที่ขลังมาก ๆ เลย อาตมาจะเอาไปลองเอง แต่ไม่มีที่ให้ลอง ฝากโยมไปลองดีกว่า
พวกเราเข้าใจคำว่าปลัดขิกไหม ? ปลัดขิก ก็คือ วัตถุที่ทำเป็นรูปอวัยวะเพศผู้ชาย สมัยโบราณเขาเรียกเลี่ยง ๆ ไป เรียกว่าขุนเพชรบ้าง ปลัดบ้าง บุคคลแรก ๆ เลยที่สร้างเป็นพระ พระรูปนั้นชื่อว่าหลวงพ่อขิก ท่านทำขลังจริง ๆ ปลัดที่หลวงพ่อขิกสร้าง เจอผู้หญิงนี่เต้นเองเลย วัดที่ท่านอยู่ก็เลยเรียกว่าวัดสาวชะโงก ก็คือ ผู้หญิงต้องคอยไปชม้อยชม้ายอยู่ตลอด เพราะเมตตามหานิยมเหลือขนาด
รุ่นศิษย์รุ่นต่อมา คือ หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ก็ดังระเบิดเถิดเทิงในช่วงสงครามโลก หลวงพ่อขิกท่านเป็นอาจารย์ปู่ เขาก็เลยเรียกปลัดหลวงพ่อขิก เรียกไปเรียกมาก็เลยกร่อนเหลือแต่ปลัดขิก ลืมไปว่าต้นตำรับคือหลวงพ่อขิกเอง
ปลัดขิกมาจากความเชื่อในอาถรรพเวทของทางด้านฮินดู เขาเชื่อว่าพลังอำนาจในการให้กำเนิดชีวิตคือพลังอำนาจที่สูงสุด คนฮินดูก็เลยบูชาศิวลึงค์กับอุมาโยนี เป็นอวัยวะเพศหญิงและอวัยวะเพศชายที่ถือว่าเป็นต้นกำเนิดชีวิต ก่อนหน้านี้ทางฮินดูมีแค่คัมภีร์สามเล่ม ที่เรียกว่าไตรเวทหรือไตรเพท ต่อมาพัฒนามาเป็นคัมภีร์เล่มที่ ๔ คืออาถรรพเวท เป็นต้นตำรับบรรดาคาถาอาคมต่าง ๆ พอมาเมืองไทยก็โดนปรับ โดนแปลงไปเรื่อยโดยบุคคลที่ศึกษา ก็เลยเอามาสร้างเป็นปลัดขิก
บ้านเราปลัดขิกสำนักที่ดัง ๆ เลย ก็มี หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก เขาไม่เอ่ยถึงหลวงพ่อขิกหรอก เพราะเขาไม่ค่อยรู้จักกัน ทั้ง ๆ ที่ท่านเป็นต้นตำรับเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2016 เมื่อ 21:10
|