ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 15-03-2016, 16:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,727
ได้ให้อนุโมทนา: 152,085
ได้รับอนุโมทนา 4,419,207 ครั้ง ใน 34,317 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ของพวกเราก็เช่นกัน เมื่อเก็บกดไปเรื่อย ๆ จุดอันตรายก็คือว่า คนสุดท้ายที่มาสะกิดจะเป็นคนที่เดือดร้อนที่สุด เพราะเราตอนนั้นเก็บเอาไว้มาก เหมือนกับลูกโป่งอัดแก๊ส ตึงเต็มที่แล้ว แค่โดนปลายเข็มสะกิดนิดเดียวก็ระเบิดตูม คนสุดท้ายที่ทำให้เราเป็นอูฐหลังหักจะเป็นคนที่ซวยมาก เพราะว่าเราจะไประเบิดใส่เขา

ในเมื่อเราไประเบิดใส่เขา เขาก็จะงงว่า "อะไร..? พูดแค่นิดเดียวหรือว่าทำแค่นิดเดียวทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วย ?" จนกระทั่งกลายเป็นลักษณะคำพูดที่ว่า "วิปัสสนาขี้โกรธ" ซึ่งความจริงแล้วการปฏิบัติธรรมในระยะข้างต้น หรือต่อให้ระยะปลายก็ตาม ถ้าเราเผลอเมื่อไร อาการที่เราเก็บกดไว้จะถูกกิเลส ก็คือ รัก โลภ โกรธ หลง ตีกลับ เนื่องจากเราเก็บกดมานาน ก็จะแสดงออกรุนแรง

ฝรั่งบางคนถึงกับเขียนตำราว่า "ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองราคะจัดขนาดไหน ให้ไปปฏิบัติธรรม เราจะคิดถึงแต่เรื่องเพศตรงข้ามอยู่ทั้งวัน" นั่นคือฝรั่งเขาเขียนไว้ในงานของเขา แต่ความจริงก็คือ จิตที่เคยดิ้นรนกวัดแกว่งไปได้ตลอด พอโดนบีบบังคับไว้ หาทางออกไม่ได้ ก็พยายามที่จะตะเกียกตะกายไขว่คว้า เมื่อไม่สามารถที่จะไปได้ ก็ใช้วิธีคิดถึง ที่ภาษาบาลีใช้คำว่า วิตกฺโก คือวิตก ก็คือคำนึงถึงคิดถึง วิจาโร คือ วิจารณ์ คือการครุ่นคิดในลักษณะที่ต้องลงในรายละเอียด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2016 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 63 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา