ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 17-03-2016, 12:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,417,123 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงต้องระมัดระวังว่า การปฏิบัติธรรมของเราอย่าให้อยู่ในลักษณะของการเก็บกด ต้องพยายามใช้กรรมฐานคู่ศึกเอามาปราบปรามกิเลสเหล่านี้ เช่น ขี้โกรธก็ต้องขยันแผ่เมตตา ถ้าแผ่เมตตาเอาไม่อยู่ ก็ต้องพยายามนึกให้ได้ว่า สิ่งที่เขาทำนั้นเราโกรธเพราะอะไร ? ถ้าเราโกรธเพราะเป็นความจริง นั่นเราผิด...เพราะว่าเขายอมเป็นกระจกเงาสะท้อนความเป็นจริงว่า เราเป็นบุคคลที่น่าเกลียดน่าชังขนาดไหน แล้วเราไปโกรธกระจกเงาย่อมไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องแน่

แต่ถ้าหากเป็นเรื่องไม่จริงทำให้เราโกรธ ถ้าขนาดเรื่องจริงเป็นอย่างไรบุคคลนั้นยังไม่รู้ เขาก็เป็นคนที่น่าสงสารมากกว่าน่าโกรธ ถ้าเรารู้จักที่จะคิดแบบนี้ ก็สามารถผ่อนคลายอารมณ์ของเราลงไปได้ ทำให้ไม่เก็บกดจนกระทั่งทนไม่ไหว แล้วระเบิดออกไป

ในส่วนของราคะ เอากายคตาสติกับอสุภกรรมฐานขึ้นมาช่วยพิจารณา ให้เห็นว่าสภาพร่างกายแท้จริงทั้งของเราและของคนอื่นมีสภาพเป็นอย่างไร ถ้าหากว่าเกิดความโลภขึ้นมา ใช้จาคานุสติ คือ การให้ทานเข้ามาช่วย ส่วนถ้าเป็นเรื่องของโมหะ ให้จับอานาปานสติตัวเดียวเลย เพราะถ้าสภาพจิตอยู่กับปัจจุบันตรงหน้า รัก โลภ โกรธ หลง ต่าง ๆ ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้อยู่แล้ว

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ที่ต้องเตือน เพราะว่าเคยเจอกับสภาพอย่างนี้มาก่อน และทำให้หลายท่านที่เป็นผู้ใหญ่ เป็นคนมีตำแหน่งหน้าที่สูง ๆ มียศ มีบริวารมาก แต่พอปฏิบัติธรรมแล้วกลายเป็นคนอารมณ์ร้าย ระเบิดโทสะใส่คนอื่นบ่อย ๆ โดยไม่รู้ว่านี่เป็นผลข้างเคียงของการปฏิบัติธรรมที่ต้องค่อย ๆ แก้ไขกันไป แล้วยังคงระเบิดกันครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้คนอื่นมองในแง่ที่ไม่ดี ทำให้ชื่อเสียงเกียรติภูมิต่าง ๆ เสียหายลงได้

ดังนั้น...ในการที่เราปฏิบัติธรรม จึงพึงระมัดระวังเป็นอย่างสูง อย่าให้อยู่ในลักษณะของการเก็บกดดังที่ได้กล่าวมา

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๙

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2016 เมื่อ 16:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา