พระอาจารย์กล่าวว่า "เดี๋ยวไว้มีโอกาสอาตมาจะเปิดกองทุนการศึกษาเพราะว่าช่วงนี้จ่ายเยอะมาก ปีนี้มีพระใหม่ที่จะเรียนปริญญาโทอีก ๔ รูป จบมา ๑ เรียนเพิ่ม ๔ อาตมาได้กำไรแบบนี้ทุกปี
ส่วนท่านแบงค์ก็ดวงยากเข็ญ ไปเรียนปริญญาโทวิปัสสนาภาวนา แรกเริ่มก็ต้องไปเข้าปริวาส ๑ เดือนเพื่อความบริสุทธิ์ หลังจากนั้นก็ไปอยู่ปฏิบัติกรรมฐาน ๗ เดือน ความจริงเขาบอกให้แบ่งเป็น ๒ ช่วง คือ ๔ เดือน กับ ๓ เดือน ปรากฏว่าพอไปอยู่ที่โน่นแล้ว ครูฝึกท่านบอกว่าเอา ๗ เดือนรวดไปเลย เพราะว่าอารมณ์ปฏิบัติกำลังดี แล้วค่อยกลับมาเรียนวิชาการ ท่านก็เลยอยู่ยาวไป ๗ เดือน แต่ปรากฏว่าทางมหาวิทยาลัยไม่ยอม ท่านก็เลยเสียฟรีไป ๘ เดือน กลายเป็นเรียนช้ากว่าเพื่อนไป ๑ ปี
เรียนช้ากว่าเพื่อน ๑ ปี พอเรียนเสร็จก็ต้องไปเข้ากรรมฐานอีก ๗ เดือน ได้บุญเยอะจริง ๆ...! เรื่องหัวข้อวิทยานิพนธ์ท่านก็ไม่ได้บอกอาตมาว่าหัวข้อเป็นอย่างไร ถึงเวลาถามว่า “หัวข้อผ่านหรือยัง ?” ตอบว่า “ผ่านแล้วครับ” “คุณได้หัวข้ออะไร ?” “วิเคราะห์การบรรลุธรรมของพระพุทธเจ้าครับ” อาตมาสะดุ้งเฮือก “เฮ้ย..! นั่น ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์เลยนะ” “ครับ.. ผมก็เพิ่งรู้ตอนที่ท่านอาจารย์ที่ปรึกษาบอกนั่นแหละครับ” เพราะฉะนั้น...ทุกวันนี้ รุ่นน้องคือท่านปลัดเผื่อนจบปีนี้ แต่รุ่นพี่คือท่านแบงค์ยังง่วนอยู่กับวิทยานิพนธ์
อาตมาบอกเขาว่า “รวบลงมาให้เหลือ ศีล สมาธิ ปัญญา แล้วก็ตีเอาเฉพาะหัวข้อใหญ่ ๆ ก็พอ” ก็ไม่รู้ว่าท่านรวบลงหรือเปล่า ? ไม่ได้กลับวัดมา ๒ เดือนกว่าแล้ว อยู่ที่มหาวิทยาลัยเลย มีอะไรจะได้ถามอาจารย์ได้ทุกวัน บอกให้มารับเงินเดือนก็ไม่มารับ นี่ถ้ามารับทีอาตมาต้องจ่าย ๒๐,๐๐๐ บาทเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2016 เมื่อ 16:58
|