"อาตมาสรุปรายงานการดูงานว่า “ถ้าเรารักษาของเก่าจนขายได้เหมือนอิตาลี รักษาธรรมชาติจนขายได้เหมือนสวิตเซอร์แลนด์ แล้วสร้างแบรนด์จนขายได้เหมือนฝรั่งเศสก็พอแล้ว แต่ทั้งหมดที่ว่ามานี่ไม่ต้องทำหรอก สร้างจิตสำนึกของคนเราให้ได้อย่างเขาก็พอแล้ว" เพราะว่าคนของเขา อย่างเช่นว่าขับรถ อาตมาหันหน้าเข้าหาถนน ยังห่างจากถนนเกือบ ๒ เมตร รถทุกคันหยุดหมดเลย ยืนงง ๆ อยู่พักหนึ่ง ไม่ได้คิดจะข้ามถนนสักหน่อยแล้วหยุดทำไมวะ ? แล้วก็เกรงใจ...ข้ามสักหน่อยก็ได้ ข้ามไปแล้วค่อยเดินกลับมาอีกรอบหนึ่ง
แต่ถ้าหากว่าอยู่ตรงที่มีสัญญาณไฟนี่ต้องรอไฟเขียวคนข้ามก่อน ถ้าไฟเขียวคนข้ามยังไม่ขึ้นแล้วไปข้าม รับรองว่าคุณได้ตายฟรีแน่ แต่ถ้าอยู่ในที่ซึ่งไม่มีทางม้าลาย ไม่มีสัญญาณไฟนี่ หันหน้าเข้าหาถนนคนขับจะหยุดให้เลย
แล้วสัญญาณไฟที่โน่นเขาเอื้อเฟื้อมาก คือมีไฟสูงอยู่ข้างบนให้คนขับรถดู แล้วมีอยู่ตรงกลาง ๆ เสาให้คนเดินถนนดู ความจริงของเราจะบังคับใช้กฎหมายอย่างนั้นก็ได้ แต่ต้องวางรากฐานมาตั้งแต่เล็ก แบบเดียวกับญี่ปุ่นที่ฝึกหัดเด็กให้ซื่อสัตย์ มีจิตสำนึกต่อสาธารณะ เขาฝึกมา ๓๐-๔๐ ปี รุ่นนั้นปัจจุบันก็คือรุ่นพ่อรุ่นแม่ ในเมื่อเป็นรุ่นพ่อรุ่นแม่แล้วรุ่นลูกของเขาก็ต้องทำตามแบบนั้น เพราะพ่อแม่เขาอบรมมาอย่างนี้ ฝึกมาอย่างนี้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2016 เมื่อ 21:43
|