ดูแบบคำตอบเดียว
  #88  
เก่า 13-05-2016, 17:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,156 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเราสวดภาวนา เราต้องพยายามคิดว่า เราจะไม่หวังอะไรหรือคะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าตอนแรกหวังก็คือหวัง แต่ถ้าว่าสวดภาวนาไปเรื่อย ๆ สมาธิเริ่มทรงตัว เรื่องนั้นจะลืมไป จะจดจ่ออยู่กับงานเฉพาะหน้าเท่านั้น

ถาม : ไม่ค่อยรู้ความหมายของบทสวดมนต์ ก็เลยไม่ค่อยอยากสวดมนต์ ?
ตอบ : กิเลสกลัวเราจะไปจากมัน เลยทำให้เราไม่อยากจะทำ ปกติสวดมนต์ก็คือสวดมนต์ ถ้าอยากรู้ความหมายไปศึกษาเวลาอื่น ไม่ใช่ศึกษาตอนสวดมนต์

ถาม : ก็คือสวดเราไม่ต้องแปลหรือคะ ?
ตอบ : ว่ายาวไปเลย สวดมนต์สร้างสมาธิให้เกิดก่อน หลังจากสวดมนต์เสร็จค่อยไปแปลเอาความหมาย

ถาม : อย่างนี้ถ้าเราแปล เรียกว่าเป็นวิปัสสนาหรือเปล่า ?
ตอบ : มะเหงกแน่ะ...! ถ้าเป็นวิธีการปฏิบัติทั่ว ๆ ไป ก็เป็นสมถกรรมฐานล้วน ๆ แต่ถ้ากล่าวถึงวิปัสสนา เราพิจารณาตามแล้วเห็นจริงตามนั้นจึงเป็นวิปัสสนา ถ้ายังไม่เห็นจริงตามนั้นก็ยังเป็นวิปัสสนึกเท่านั้นแหละ

ถาม : ก็แสดงว่าวิปัสสนามีบุญมากกว่า ?
ตอบ : อยู่ที่ว่าเราทำเพื่ออะไร โดยปกติขอให้เริ่มลงมือทำเท่านั้น ก็เป็นส่วนของบุญกุศลอยู่แล้ว แต่สำคัญตรงสุดท้ายในส่วนของวิปัสสนาทำให้เราหลุดพ้นจากกองกิเลสได้ ถ้าวิปัสสนาจะมีบุญมากกว่า ก็ตอนหลุดพ้นจากกองกิเลสได้ แต่ถ้าลงมือทำก็ราคาเท่ากัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา