พูดตามพ่อสอน(ต่อ)
ถ้าเรามองอย่างนี้เราจะรู้เลยว่าที่เราทุกข์นี่ เราเสือกไปทุกข์ ร่างกายมันไม่ได้ทุกข์ไอ้หนู! ร่างกายมันพอกระทบอากาศหนาวน่ะ มันก็เย็นขึ้น มันไม่มีใจจะทุกข์นะร่างกายน่ะ แต่เราเสือกไปมีในมัน...(บรื๋อ...หนาวฉิบหายเลย)กายมันไม่ได้ทุกข์นะ มันอยู่กับทุกข์แต่มันไม่ได้ทุกข์ แต่ใจมันทุกข์
ตรงนี้เอง เขาจึงบอก ควรจะเกิดต่อไปไหม? แล้วยังไม่ตาย ก่อนจะตายควรจะวางอารมณ์ไว้อยู่ตรงไหน? ถึงจะไม่ทุกข์มากเกินไป ก็คืออุเบกขา ทำหน้าที่ไปในเขตของศีลธรรม ทำไปจนตาย ไม่ตัดพ้อต่อว่า ไม่อยากจะเป็นโน่นไม่อยากจะได้นี่ ไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงโน่นนี่ อะไรมาเฉพาะหน้าถือว่า... อ๋อ! กูรู้แล้วมึงต้องมา... มันให้ผลอย่างไร?... อ๋อ! กูรู้แล้วมึงต้องให้ผลอย่างนี้ เพราะเหตุเดิม พอมันสลายไป...กูรออยู่แล้ว...มึงสลายไป กูสบายแล้ว ทุกข์อันนี้เกิดขึ้น ทุกข์อันนี้หนักหนา และทุกข์อันนี้หายไป ...กูนึกแล้วมึงต้องอยู่ไม่ได้ เอ้า! ทุกข์ใหม่มา กูนึกแล้วมึงต้องมา ประเดี๋ยวมันจะทุกข์อยู่กี่วัน? อ้าว! ๒ ชั่วโมง หายแล้ว ไปอีกแล้ว เมื่อไหร่จะมา? อ๋อ! มาอีกแล้วหรือ กูนึกแล้ว มึงต้องมา...เมื่อมึงมา...ก็มีปัญญา เออ!...กลายเป็นมีสติ สัมปชัญญะในการมองทุกข์และรู้ทันทุกข์อยู่ตลอด...ไม่เกาะ!
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 27-08-2009 เมื่อ 15:33
|